รหัสสินค้า | SKU-00978 |
หมวดหมู่ | หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน |
ราคา | 26,900.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
ลงสินค้า | 21 ส.ค. 2561 |
อัพเดทล่าสุด | 6 พ.ค. 2565 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
รายละเอียดการพุทธาภิเษกมีดังนี้
วันที่ 17 มกราคม 2555 ทำพิธีบวงสรวงเททอง ชนวน และ เป็นองค์บางส่วนครับ
1. ที่วัดท่าซุง (พิธีหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม)
เข้าพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมที่วัดท่าซุง
เสาร์ 5 วันที่ 28 มกราคม 2555 ปลุกเสกชนวนปฐมฤกษ์
2. ที่วัดเขาวง พิธีพระศรีอาริยเมตไตร
พุทธาภิเษกที่วัดเขาวง สระบุรี วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2555
3. ที่วัดท่าซุง พิธีหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม
วันที่ 23 มิถุนายน 2555 เข้าพิธีที่ วัดท่าซุง
4. ที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ พิธีพระเจ้าพรหมมหาราช
วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2555 ที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์
5.วันที่ 20 ตุลาคม เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ที่ วัดท่าขนุน
พระอุนเสาวรีย์ในปัจจุบัน…ทางวัดจะจัดงานฉลองชัยชนะของพระเจ้าพรหมมหาราช
ณ อนุเสาวรีย์ เป็นประจำทุกๆปีในวันก่อนหน้าวันเข้าพรรษาหนึ่งวัน ประมาณเดือนกรกฎาคม
โดยจะมีการบวงสรวงและเวียนเทียนรอบอนุเสาวรีย์
อีกทั้งมีการฟ้อนรำถวายองค์พระเจ้าพรหมมหาราช
เพื่อเป็นการระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้เล่าถึงอานุภาพไว้ว่า
* ช้างถนัดในทางปราบอมิตร พระเจ้าพรหมมหาปราบและมหาเสน่ห์
พระนางปทุมวดี (ยังไม่มีรูปปั้นที่วัด) ถนัดในทางลาภ
* ถ้าจะบนช้างต้องเอาเลือดสดทาปาก แต่ท่านให้ใช้อาหาร
ที่มีเลือดหมูต้มรวมอยู่ด้วยถวายพระแทน
* ส่วนถ้าจะบนพระเจ้าพรหม ให้ใช้ผ้าเหลืองถวายพระ และ ถ้าบนพระนางปทุมวดี
ให้ใช้ดอกไม้ 3สี บูชาพระถวายสังฆทาน
---------
รายการมวลสารที่สร้าง
พระกริ่งพระเจ้าพรหมมหาราช และ พระเจ้าพรหมมหาราชขนาดบูชา
1.ผงตะไบเหล็กดาบฟ้าฟื้น หลวงพ่อวัดท่าซุง(เอาดาบมาหลอมแล้วตะไบเป็นผง)
2.ผงตะไบ มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์
3.เหล็กยอดเจดีย์องค์พระปฐมเจดีย์ จ. นครปฐม
4.ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี
5.ผงเสริมดวงหลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต จันทบุรี
6.ทองล้นเบ้า หลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์
7.แร่โคตรเศรษฐี
8.ทองล้นเบ้าพระเกศหลวงพ่อองค์ปฐม วัดหนองหญ้าปล้อง
9.ดินสองพอง เข้าพิธี มหาเศรษฐี วัดท่าซุง ปี2553
10.พระขรรค์โสฬส วัดท่าขนุน
11.โบว์เหรียญเศรษฐี วัดท่าซุง ปี18
12.แผ่นยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อ วัดท่าซุง
13.ตะกรุด พระเจ้า 5 พระองค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
14.ทองที่ลอกออกมาจากหลวงปู่ปาน วัดศาลพันท้ายนรสิงห์
15.ทองที่ลอกออกมาจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์
16.ลูกอม ผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่
17.ผงเขี้ยวหนุมาน
18.ผงนาคราช ผสมมวลสารผงหลวงปู่ต้นบุญ
19.ผงไม้ตะเคียนหลวงปู่ขาว
20.ผงดินพระธาตุพนม
21.ผงยาสวาสนาจินดามณี
22.สีผึ้ง วัดหน้าต่างนอก
23.ยาฉุน หลวงปู่ใยวัดมะขาม
24.ลูกลาน หลวงปู่คำบุ
25.มวลสารจากคณะธรรมมิกราช สายหลวงปู่ดู่
26.ผงหินพระธาตุ สามร้อยยอด
27.ตะกรุดสามกษัตริย์ หลวงปู่บัว
28.หินพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า
29.เสือทองเหลือง หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
30.กาฝากไม้มงคล 9 ชนิด
31.ตะกรุดยันต์เกราะเพชร หลวงตาวัชรชัย
32.สีผึ้ง หลวงพ่อแสวง วัดสว่างภพ ลูกศิษย์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
33.ตะกรุดพุทโธ ภาวนา หลวงพ่อสำอางค์
34.แผ่นทอง หลวงปู่หลุยส์ วัดราชโยธา
35.ผงมหามงคล ทองคำเปลว ดอกไม้ ผ้าสะไบ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม
36.ผงหลวงปู่แผ้ว
37.ผงพระสิวลี
38.ผงชานหมาก หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง
39.แป้งเสก หลวงปู่บุดดา
40.ทองคำ แผ่นเงิน แผ่นทองเหลือง เข้าพิธีมหาเศรษฐี วัดท่าซุง
41.ข้าวตอกพระร่วง
42.ผงจตุรธาตุ
43.ข้าวสารเสกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
44.ห่วงเหรียญต่าง ทั่วประเทศ
45.ข้าวตอกพระร่วง
46.ผงดอกไม้ที่บูชาหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม
47.ลูกอมหลวงปู่แย้มวัดสามง่าม
48.ปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์
49.ข้าวมธุปายาส
50.ผงทองคำที่เหลือจากการปิดพระคำข้าว พระคำหมาก
51.เหล็กไหล 7สี
52.ลูกอมหลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
53.ชนวนทองเหลืองเข้าพิธี พระปัจเจกพุทธเจ้า
54.ตะกรุดหลวงอูวีสะนั ประเทศพม่า
55.สีผึ้งหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ปี2520
56.ตะกรุดไตรรัตนาธิคุณ หลวงปู่บุญ วัดหัวเขา
57.ดินจากที่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน จากประเทศอินเดีย
58.ดิน 9 นคร ทราย 9 แม่น้ำ
59.ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
60. ผง 12 นักษัตร หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง
61.แผ่นยันต์ หลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว
62.ทองคำ และรักที่หลุดออกมาจาก หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโยวรวิหาร
63.ผงตะไบ น้ำมนต์ วัดสุทัศน์
64.ตะกรุด มหามงคลครอบจักรวาล หลวงตุ๊มหาสิงห์ วัดถ้ำป่าไผ่
65.สายสิญจน์ หลวงปู่สุภา
66.ตะกรุดสามกษัตริย์ หลวงพ่อน้อย วัดศรีดอนมูล
67.สีผึ้งวัดถ้ำป่าไผ่ ผสมน้ำมันพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
68.ผงเกราะเพชร หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ผสมผง 3,000 ชนิดของกองทุนหลวงปู่ปาน
69.ผงหลวงปู่ขาว
70.มูลดิน บ้านพระองคุลิมาล ที่อินเดีย
71.ทองล้นเบ้า พระสิวลี วัดสุขุมาราม จ.พิจิตร
72.แผ่นเงิน แผ่นทอง หลวงพ่อมนัส ท่านมอบให้
73.เทียนเสกทำน้ำมนต์ หลวงพ่อสิริ สิริวฑฺฒโน
74.แป้งเสก หลวงปู่ คำเป็ง
75.ลูกอมหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
76.ชนวนเหรียญโพธิญาณ หลวงตาม้า
77.ตะกรุดหลวงพ่อทบ วัดชนแดน
78.แผ่นทองเหลืองจาร หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ
79.แผ่นยันต์จาร และอธิษฐาน จากหลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป
80.ชานหมากหลวงพ่อน้อย วัดโพทัยมณี จังหวัดเพชรบุรี
81.ลูกอมหลวงพ่อแสวง ผสมผงหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
82.ตะกรุดเมตตา-มหาอำนาจ หลวงพ่อสมคิด วัดเขาวงศ์ สุพรรณบุรี
83.น้ำตาเทียน พิธี วันวิสาขบูชา วัดท่าซุง ปี53
84.ผงพระรอดกรุ มหาวัด
85.ลูกอม พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์
86.ลูกอมหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม สมุทรสาคร
87.ผงรวม ผงพรายกุมาร ผงหลวงปู่ชื้น หลวงปู่หงษ์ หลวงพ่อทองดำ
88.น้ำมันชาตรี วัดท่าซุง
89.สีผึ้ง หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโน (หลวงปู่ฤาษีลิงเล็ก)
90.แผ่นยันต์ตะกั่ว จารโดยหลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง
91.ทองคำเข้าพิธี พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน วัดท่าขนุน
92.ยันต์ครูหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
93.ลูกอม หลวงพ่อผล วัดเชิงหวาย
94.ผงจากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
95.ผงพระสมเด็จวัดระฆัง
96.ผงพระสมเด็จวัดเกศไชโย
97.ผงพระขุนแผน วัดใหญ่ชัยมงคล
(ผงจากพระสมเด็จพนรัตน์ อาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช)
98.ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
99.ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
100.ผงหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ
101.ผงหลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
102.ชนวนพระกริ่งสมปรารถนา วัดศาลพันท้ายนรสิงห์
103.น้ำมันงา หลวงปู่บัว วัดศรีบูรพาราม
104.แผ่นยันต์ จารหลวง หลวงปู่บัว ตั้งแต่รุ่น พระกริ่งสมปรารถนา
105.วัชระ
106. มีดหมอเทพศาสตราอาจารย์ชุมไชยคีรี
107. มีดหมอหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ. กาญจนบุรี
108. มีดดาบฟ้าฟื้น (ดาบขุนแผน) พระครูโสภณวีรนุวัตร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ. สุพรรณบุรี
109. เหล็กจากขวานฟ้าผ่า
110.เหล็กยอดเจดีย์สร้อยทอง วัดสร้อยทอง
111.แผ่นเงินไส้ตะเกียงมหารัตนประทีป
112.ห่วงเหรียญ ทุกรุ่นในหนังสือสมบัติพ่อให้ วัดท่าซุง
113.ทองแท่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้ ตั้งแต่ตอนปี2534
114.เนื้อนวโลหะตะไบ เก่าวัดบวร ช่างจิวมอบให้
115.แหวนรัตนจักร หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
-----
ประวัติ พระเจ้าพรหม มหาราชองค์แรกของไทย
หากมีการตั้งคำถามว่า กษัตริย์ที่นักประวัติศาสตร์ไทยยกย่องว่าเป็น "มหาราช"
องค์แรกของไทย คือ พระองค์ใด หลายคนคงนึกถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
บางคนอาจจะนึกถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือบางคนอาจนึกไปได้ไกลถึงพระเจ้ามังราย
มหาราช เพราะแต่ละพระองค์ล้วนแต่ครองราชย์ในช่วงหลายร้อยปีก่อนหน้าโน้น
และมีพระนามเป็นที่คุ้นหูอย่างดี แต่ความเป็นจริง
พระมหากษัตริย์ไทยเราที่ทรงเป็นมหาราชองค์แรก ก็คือ "พระเจ้าพรหมมหาราช"
ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยให้รอดพ้นจากการรุกรานย่ำยีของพวกขอม
เมื่อประมาณ ๑,๐๖๔ ปีล่วงมาแล้ว ในสมัยอาณาจักรโยนกหรืออำเภอเชียงแสน
จังหวัดเชียงราย ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของเวลา แต่ละตำราจะเขียนไว้ไม่เหมือนกัน
ในที่นี้จะขอยึดข้อมูลจากหนังสือประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดเชียงราย
ซึ่งเอา "ตำนานสิงหนวัติฉบับสอบค้น" มาเป็นหลักอ้างอิง กล่าวคือย้อนไปเมื่อ พ.ศ.๑๔๖๐
ในรัชสมัยของ พระเจ้าพังคะ หรือ พระองค์ฬั่ง กษัตริย์องค์ที่ ๔๓ แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ
ได้ถูกพวกขอมขับไล่จากเมืองโยนกพันธุ์ไปอยู่เมืองเวียงสี่ตวง
ใกล้แม่น้ำสาย จนกระทั่ง ๔ ปีต่อมา หรือเมื่อ พ.ศ. ๑๔๖๔
มเหสีของพระองค์ไปประสูติโอรสคนที่ ๒ มีการขนานนามว่า "พระเจ้าพรหมกุมาร"
ในตำนานได้กล่าวถึงประวัติตอนปฐมวัยของ "พระเจ้าพรหมกุมาร"
เต็มไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ เช่น เมื่อพระองค์มีพระชันษาได้๗ ปี
ก็สามารถเล่าเรียนวิชาเพลงอาวุธและตำราพิชัยสงคราม จนจบครบถ้วนกระบวนความ
หรือเมื่อพระองค์มีพระชันษาได้ ๑๓ ปี ได้ทรงสุบินว่า มีเทพยดามาบอกว่า
จะมีช้าง ๓ ตัวล่องน้ำโขงมา และให้เจ้าพรหมกุมารไปล้างหน้าที่นั่น
หากจับช้างตัวแรกได้จะมีอานุภาพปราบได้ทั้ง ๔ ทวีป ถ้าจับได้ตัวที่ ๒
จะมีอานุภาพได้ชมภูทวีป ถ้าจับได้ตัวที่ ๓ จะปราบแว่นแคว้นล้านนาได้
พอรุ่งเช้า เจ้าพรหมกุมารจึงได้พาบริวารประมาณ ๕๐ คน ไปยังท่าน้ำ
ครั้งแรกเห็นงูเหลือมเลื่อมเป็นมันระยับลอยผ่านไปแล้ว ๑ ตัว พอตัวที่ ๒
ก็เป็นงูอีกเหมือนกัน พอตัวที่ ๓ เจ้าพรหมกุมารจึงทรงนึกถึงเรื่องในสุบินนั้นคงเป็นงูนี่เอง
จึงพร้อมกับบริวารช่วยกันจับงู เมื่อเจ้าพรหมกุมารสามารถขึ้นขี่ งูก็กลายเป็นช้างไปทันที
แต่ไม่ยอมขึ้นฝั่ง จนกระทั่งบริวารต้องเอาพานทองคำตีล่อ ช้างจึงยอมขึ้นจากน้ำ
และมีการเรียกชื่อว่า "ช้างพานทองคำ"
พระเจ้าพรหม ทรงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความสามารถและโปรดในการสงคราม
เมื่อสามารถเตรียมกำลังไพร่พลได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็ทูลพระบิดาให้เลิกการส่งส่วยแก่ขอม
พวกขอมจึงยกทัพขึ้นไปปราบ พระเจ้าพรหมก็คุมกำลังออกต่อสู้และขับไล่พวกขอมจนแตกพ่าย
สามารถยึดเมืองโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติคืนได้เมื่อ พ.ศ.๑๔๗๙
ในขณะที่พระองค์มีพระชันษาได้เพียง ๑๖ ปีเท่านั้น
สำหรับช้างพานทองคำ เมื่อเสร็จสงครามก็ได้หายไปทางดอยลูกหนึ่ง
ซึ่งต่อมาเรียกว่า "ดอยช้างงู" แต่ชาวเขาเผ่าอีก้อออกเสียงไม่ชัดเจน เรียกว่า "ดอยสะโง้"
และได้เรียกเพี้ยนมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนพระเจ้าพรหม เมื่อได้อัญเชิญพระบิดามาครองเมืองโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติ
ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองโยนกชัยบุรีแล้ว
พระองค์ก็นำทัพไปขับไล่ขอมจนถึงเมืองกำแพงเพชร
จนหมดเชื้อชาติขอมในอาณาจักรโยนกแล้วจากนั้นพระองค์ก็ได้สร้างเมืองใหม่ขึ้นที่เมืองอุมงคล
เสลาเก่า เมื่อ พ.ศ. ๑๔๘๐ เพื่อเป็นด่านหน้าคอยป้องกันพวกขอมยกทัพกลับมาตีอีก
และเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เป็น "เมืองไชยปราการ" ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอชัยปราการ
จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเอง
พระองค์ได้ครองเมืองไชยปราการได้ ๕๙ ปี ก็เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ.๑๕๔๐
ต่อมาได้มีการขนานนามพระองค์ว่า "พระเจ้าพรหมมหาราช"
นับเป็นมหาราชองค์แรกของชาติไทย.
“พระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว กู้ชาติไทยครั้งแรกสมัยโยนก”
ข้อมูลโดยพี่ยอด เศรษฐีธรรม
-----
อานุภาพของพระเจ้าพรหมมหาราช
อนุเสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว ได้ประดิษฐานขึ้นแล้ว ที่วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานีและได้ทำการฉลองไปเมื่อ ๑๔ กรกฏาคม นี่เอง
คุณจีรศักดิ์ พูนผล เป็นกำลังสำคัญในการหาทุนทรัพย์ สร้างอนุเสาวรีย์แห่งนี้ ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น ๙๐๐,๐๐๐ บาทเศษ และในการนี้หลวงพ่อได้ช่วยออกเงินร่วมสร้างด้วย จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ บาท
พระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้วทำด้วยโลหะรมดำ หลวงพ่อบอกว่า ตอนนี้พระเจ้าพรหมมาอยุ่วัดแล้ว เพื่อให้เข้ากับสถานที่และภาวะ จะปิดทองทั้งหมด ทั้งคณะและช้างทรงด้วย อีกไม่นานอนุเสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราชก็จะมีความสง่างามขึ้นอีกมากทีเดียว
เมื่อตอนวันงานฉลองพระเจ้าพรหม ฯ มีคนหนึ่งไปเขย่าติ้ว ปรากฏว่าเขย่าไม่นานติ้วหล่นลงมา ๑๐ อัน แกเลยไปแทงหวย โชคดี ถูกเลขท้าย ๒ ตัว ๐๑ คนเลยฮือฮากันใหญ่ ต่อไปคงมีคนบนให้ท่านช่วยเหลือแน่ ๆ หลวงจึงบอกให้ทราบล่วงหน้าก่อนว่า
ถ้าใครจะบนก็ให้ทำตามนี้ ขอคัดเอามาจากจดหมายที่หลวงพ่อเขียนถึงคุณ จีรศักดิ์ ทั้งฉบับดีกว่า เพราะมีเรื่องอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย
จดหมายที่หลวงพ่อเขียนถึงคุณจีรศักดิ์ มีใจความอย่างนี้
"พ่อลูกชาย"
เงินสำหรับพระเจ้าพรหม ฯ ขอมอบให้ ๒๕๐,๐๐๐ บาท (สองแสนห้าหมื่นบาท) ทั้งนี้เพราะหาได้พอ คิดไว้นานแล้วว่าจะช่วยถามทีไรก็บอกว่า "ไม่ต้อง ๆ " เงินขนาดหนักอย่างนี้ไม่มีใครเขาทำได้ มีรายเดียวที่กล้าทำและก็ทำได้ ขอผลบุญนี้จงส่งผลให้ทำทุกอย่างสำเร็จไปตามความต้องการจงทุกประการตลอดไปเถิด
เรื่องผิวคณะพระเจ้าพรหม ฯ พระท่านบอกว่า ลักษณะผิวนักรบเขาต้องอยู่นอกวัดเพราะรบกับข้าศึก เวลานี้อยู่ในวัด "คณะพระเจ้าพรหม ฯ ต้องบวช" เพื่อให้เข้ากับสถานที่และภาวะที่สมควร ท่านให้ปิดทองทั้งหมด ขอให้ช่างจัดการปิดทองให้ด้วย เป็นอันว่าฉันเหมาทั้งหมด คือทั้งทองและแรงงานเป็นของช่าง ให้บอกราคามาจะได้จัดจ่ายให้เป็นงวด ๆ ตามความเป็นจริง
การทำขอให้ระมัดระวังเรื่องความสุจริต เพราะ
๑. ช้าง ชอบเลือดสด
๒. พระเจ้าพรหม ฯ ชอบผ้าคล้อง ๒ ไหล่
๓. พระนางปทุมวดี (ยังไม่มีรูป) ชอบดอกไม้ ๓ สี
อานุภาพ
ช้างถนัดในทางปราบอมิตร
พระเจ้าพรหม ปราบและมหาสเน่ห์
พระนางปทุมวดี ถนัดในทางลาภ
ถ้าจะบน
ช้างต้องเอาเลือดสดทาปาก แต่ท่านให้ใช้อาหารที่มีเลือดหมูต้มรวมอยู่ด้วยถวายพระแทน
พระเจ้าพรหม ใช้ผ้าเหลือง ถวายพระแทน
พระนางปทุมวดี ใช้ดอกไม้ ๓ สี บูชาเธอ และถวายสังฆทาน
เป็นอันว่า ขอให้ช่างจัดการปิดทองได้เลย แต่ก่อนปิดทองบอกฉันก่อนว่า "ราคาเท่าไร" คราวนี้อย่าให้ช่างต้องแห้งแล้งเกินไปเลย เธอจะแย่ เธอดีมากอยู่แล้ว อย่าให้ดีพังเสียเลย
พระมหาวีระ ถาวโร
วัดท่าซุง ๓ สิงหาคม ๒๕๒๗
คุณจีรศักดิ์ ได้รับจดหมายฉบับนี้แล้วบอกว่า "ผมจะใส่กราบบูชาทุกวันเลย ปลื้มใจมาก"
ก็น่าปลื้มใจ เพราะทุ่มเททุกอย่าง ทั้งกำลังกายและสติปัญญา กำลังทรัพย์ก็ไม่ต้องพูดถึง ควักจนหมดตัว จนหลวงพ่อสงสาร ให้ความช่วยเหลือถึง ๒๕๐,๐๐๐ บาท ในการปิดทองเป็นงานขั้นต่อไป ก็ไม่ต้องหนักใจแล้ว หลวงพ่อออกเงินทั้งหมด ทั้งค่าทองและแรงงาน "ถ้าใครจะร่วมทำบุญกับหลวงพ่อครั้งนี้อีก ก็ขอให้ส่งเงินมายั่งหลวงพ่อได้" หลวงพ่อได้บอกให้ญาติโยมได้ทราบครั้งหนึ่งแล้วที่บ้านสายลม เมื่อ ๔, ๕, ๖, สิงหาคม
สำหรับพระนางปทุมวดี นั้น อดีตคือ "ท่านแม่ประภาศรี" ถึงแม้จะเป็นหญิง แต่ก็รบเก่งมาก มีอาวุธรอบตัว หลวงพ่อกำลังให้ช่างปั้นรูปท่านอยู่คงเสร็จในเร็ว ๆ นี้
เป็นอันว่า ที่วัดท่าซุง นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐาน "วิหารพระวิสุทธิเทพ" แล้ว ยังมี "อนุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช" อนุสาวรีย์ของ "กรมหลวงชุมพร ฯ" และ "พระนางปทุมวดี" ได้ข่าวว่าหลวงพ่อจะสร้าง "อนุสาวรีย์ของพระยาโกษาเหล็ก" ด้วย ประดิษฐานใกล้ ๆ กับ "กรมหลวงชุมพร ฯ"
เมื่อพูดถึง "กรมหลวงชุมพร ฯ" ก็ขอบอก ณ ที่นี้เลยว่า ใครที่บนกับท่าน ให้บนก่อน เวลา ๐๘.๑๐ น. และก่อนเวลา ๑๕.๑๐ น. ส่วนสิ่งของก็มี "ขนมจีน ทองหยิบ ฝอยทอง หมู ไก่ ข้าวสุกปากหม้อ" ก็ขอบอกให้ทราบเท่านี้แหละครับ
และอย่าลืมมาร่วมงานฉลองพระเจ้าพรหมมหาราชกันอีก ในวันเข้าพรรษาปีหน้านะครับ
"จามร"
ธัมมวิโมกข์ ธรรมที่ทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์
ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๔๕ หน้า ๘ - ๙
หนังสือธรรมะ ที่จัดทำเพื่อพระนิพพาน และเผยแพร่คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมาะสำหรับทุก ๆ ท่าน ที่ปรารถนาความสุขที่แท้จริง
( ลิขสิทธิ์เป็นของ "วัดท่าซุง" )
http://www.watthasung.com/
หน้าที่เข้าชม | 2,906,194 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,980,376 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 20 ต.ค. 2568 |