รหัสสินค้า | SKU-00395 |
หมวดหมู่ | อาแปะ เซียนแปะ วัดศาลเจ้า |
ราคา | 1,250.00 บาท |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
ลงสินค้า | 2 ต.ค. 2560 |
อัพเดทล่าสุด | 4 ก.พ. 2561 |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
หมายเหตุ :
สบายใจได้สำหรับลูกค้าที่ต้องการ บูชาวัตถุมงคล หรือ สินค้าของทางร้าน
เพราะ เรามีตัวตนจริงๆ และ มี หลักฐานตัวตนอยู่จริง
วัตถุมงคล ทุกรายการของทางร้าน รับประกันแท้ 100% ทุกรายการ
หากพบว่า เป็นของเก๊ หรือ แอบอ้าง และ ไม่ใช่ความจริง ยินดี รับคืน
และ จ่ายเงินคืนให้กับ ลูกค้าผู้เช่าบูชา ตามหลักสากล ของ วงการพระเครื่อง การให้บูชาวัตถุมงคล
ติดต่อบูชาได้ที่
Line & Telephone : 0992542666
หน้าร้านเว็บไซด์ของวัตถุมงคล
http://www.imeethai.com/product/395
-------------------
ความหมายของผ้ายันต์อาแปะโรงสี
1 กา พกพาติดตัวปรับฮวงจุ้ยชีวิต บุกเบิกฟันฝ่า สร้างเนื้อสร้างตัว ก่อรากฐานชีวิต และกาใหญ่เอาติดที่ประตูบ้าน 2ข้างแบบกุ้ยนั่ง รับแรงประทะ เสริมพลังให้ตัวบ้าน
2 กา ร้านเสริมสวย เหมือน ๖ กา เป็นเสน่ห์ ธาตุน้ำ ความสวยงาม
3 กา ใช่ประกอบกับ 8 กาสำหรับที่ที่มีอาถรรพน์เยอะ เป็นการต่อสู้ข่มวิญญาณ เจ้าที่เจ้าทาง
4 กา สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว ประกอบกับ 9 กา ยอดเยี่ยมครับ เป็นเรื่องการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ โรงแรมก็ใช้ได้
5 กา สำนักติว ติวเตอร์ โรงเรียนเอกชนที่ก่อตั้งใหม่ ๆ ยังไม่ดัง ชื่อยังไม่ติดชาร์ต ร้านขายสังฆภัณฑ์
ร้านขายหนังสือ เครื่องเขียน
6 กา เหมือน 2 กา โรงแรม อาบอบนวด สถานบันเทิงเริงรมย์ ร้านเสริมสวย ร้านขายของสวย ๆ งาม กิฟต์ชอป ร้านขายดอกไม้ จัดดอกไม้
7 กา สำหรับฟื้นฟูกิจการ. คลีนิค ร้านทำฟัน ขายอุปกรณ์การแพทย์ วัสดุก่อสร้าง บ.ก่อสร้างทาง
8 กา ร้านเหล้า ร้านอาหาร สำหรับนายทหาร นายตำรวจ ข้าราชการตั้งไว้ในห้องทำงานหลังโต๊ะบนหัวเก้าอี้ที่เรานั่ง มีบารมีลูกน้องเกรงขาม หัวหน้า ผู้จัดการ ดีมาก เคล็ดลับอย่าไปบอกใครมาก
9 กา ขายเครื่องสังฆทาน มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า
10 กา และ 18กา เสริมพลังให้บ้าน เป็นการเสริมเติมเต็ม full ภาษาบาลีว่า ปุรณ แปลเป็นไทยว่าครบถ้วนบริบูรณ์ ใช้ติดเป็นปรธานในบ้าน ๆ นั่นจะบริบูรณ์มั่งคั่ง ทรัพย์สินเรืองรอง เงินทองเนืองนองไหลมาไม่ขาดสายดุจสายน้ำในแม่น้ำลำธารที่ไม่มีวันเหือดแห้ง สุขภาพแข็งแรง ภูติผีปีศาจสิ่งอาถรรพน์ไม่มากร้ำกราย โรคภัยไม่เบียดเบียน สมบูรณ์มั่งคั่งดังคำประกาศิตว่าฟ้าประทานพร
(การบูชาผ้ายันต์ฟ้าประทานพร)
1.ก่อนแขวนบูชาจุดธูปบอกเจ้าที่เพื่อจะขอแขวนผ้ายันต์
2.นำผ้ายันต์แขวนบนผนัง โดยให้ผ้ายันต์หันออกหน้าร้าน
3.เอากิมฮวย 1 คู่ ติดตรงกลางด่านล่างของรูปและปักธูปไม่จุด 5 ดอก และ แขวนพวงมาลัยพลาสติก 1 พวง บนกรอบด้านบน เป็นอันเสร็จพิธี สามารถถวายพวงมาลัยสดเพิ่มได้.ทั้งนี้กิมฮวยธูป 5 ดอก และพวงมาลัยพลาสติกควรเปลี่ยนปีละ 1 ครั้ง
(การไหว้)
1.ส้ม 5 ลูก
2.น้ำชา 5 ถ้วย
3.ขนมแต้เหลียว 1 จาน
4.กิมฮวย 1 คู่
5.ธูป 5 ดอก
6.พวงมาลัยพลาสติก 1 คู่
7.ไหว้วันชิวโหงว วันที่ห้า ของวันตรุษจีน วันที่เจ้ากลับลงมาจากสวรรค์
คำอธิฐานขอพร
อาแปะโง้วกิมโคย (เซียนแปะสามตา)
เทียน กัว สื่อ ฮก โหงว ลี่ ขอให้ฟ้าประทานพร โชคลาภ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว+++
--------------------------------------------
ประวัติ อ.เซียนแปะโรงสี
อ.เซียนแปะโรงสี เดิมชื่อ
กิมเคย แซ้โค้ว มาจากเมืองจีน ค้าขายข้าวเปลือก แถวคุ้งน้ำปทุมธานี (วัดศาลเจ้า) มีโรงสีข้าวในกิจการหลายแห่ง จนเรียกขานกันว่า เถ้าแก่กิม ต่อมาได้โอนสัญชาติเป็นคนไทย มีชื่อว่า นที ทองศิริ
มีความชำนาญ ด้านโหราศารต์ ภูมิศาสตร์(ฮวงจุ้ย ฮวงซุ้ย)
และมีความรู้ด้านดาราศาตร์กาคดูดาว มีวิชาอาคมแก่กล้า
จนลูกศิษย์ขนานนามว่า เซียนแปะ คอยช่วยเหลือผู้คนที่ทุกข์ร้อนต่างๆ ดูฮวงจุ้ยและฮวงซุ้ย ให้ลูกศิษย์เสมอๆ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน บุคลิค ร่างผอมสุง สุขุมเยือกเย็น ถึงเป็นคนจีนแต่ก็ชอบเคี้ยวหมากกินหมากแบบคนไทย
เวลาไปช่วยดูฮวงจุ้ย ฮวงซุ้ยทีรต่างประเทศ จะต้องมีการนำตะกร้าหมากไปด้วย เสมอๆ เจ้าสัว cpได้ยินชื่อเสียงเลื่องลือจึงเชิญไปฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งกิจการ และขอคำชี้แนะเสมอๆ เวลาจะซื้อที่ทาง ก็ให้อ.เซียนแปะ ไปตรวจให้ดูให้ตลอด ตรงไหนที่แรง มีอาถรรค์ก็จะเชิญไปทำพิธีให้ตลอด โดยอ.เซียนแปะจะนิมนต์ ลป.โต๊ะ และลป.ทองอยู่ ไปร่วมด้วย
ทุกครั้ง และให้ผ้ายันต์ฟ้าประทานพร ไปติดเพื่อปรับแต่งฮวงจุ้ยให้ตลอด ทำให้กิจการเจริญรุ่งเรืองเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ เวลาจะรับพนักงานระดับ หัวหน้างานขึ้นไป ก็จะเชิญอาแปะ ไปดูลักษณให้เสมอๆ ทำให้ไดับุคลากรที่มีคุณภาพ
ในการจัดการกิจการของเครือcp เจ้าสัวซีพี ศรัทธาท่านมาก จึงสร้างเหรียญรุ่นแรก ถวาย(ทรงหยดน้ำ) ปี18
และห้อยร่นนี้เพียงเหรียญเดียวตลอด ต่อมาเนื่องจากเหรียญนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ทางศาลเจ้าจึงขออนุญาติ สร้างเหรียญไข่ครึ่งองค์ ในปี
19 มีหลายเนื้อ ด้านหน้ารูปอาแปะ ด้านหล้งรูปยันต๋ฟ้รประทานพร โดยทั้ง2รุ่น ปลุกเสกโดย
ลป.โต๊ะ ลป. ทองอยู่ และเกจิในยุคนั้นอีกหลายรูป
อ.เซียนแปะ ได้เป็นคนทำพิธี ไคกวงเองทั้ง2รุ่น และผ้ายันต์ฟ้าประทานพรของท่านก็จะเสกโดย2พระเกจินี้ตลอด เพราะอาแปะศรัทธามาก ทำให้ของท่านเข้มขลัง มีราคาสุงทุกอย่าง
#ยันต์ฟ้าประทานพร
เดิมเป็นยันต์ที่สามมหาเทพ
ซัมกัวไต่ตี่ ได้มีบัญชาให้เง๊กเซียน ฮ้องเต้นำมาช่วย โลกมนุษย์
ธดยผ่านเจ้าพ่อ ปึงเถ่ากงม่า
มาประทับทรงอาแปะ เขียนขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไหว้กราบไหว้บูชา
เพื่อปรับฮวงจุ้ย ปรับดวงชะตา ขับไล่อาถรรพ์ต่างๆ
อาแป๊ะโรงสีผู้เขียนยันต์ฟ้าประทาน เป็นหนึ่งในผู้วิเศษชาวจีนที่มีผู้คนนับถือมากที่สุดท่านหนึ่งในยุคปัจจุบันโดยท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเซียนที่ทำหน้าที่โปรดมนุษย์ในอดีตเจ้าสัวใหญ่ระดับประเทศก็เคยมาขอพึ่งบารมีจนกิจการรุ่งเรืองร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี แม้ปัจจุบันนี้ผู้ที่มาพึ่งบารมีท่านก็ยังได้อานิสงค์ถูกหวยบ้าง ได้รับความเจริญทางธุกิจบ้างอย่างน่าอัศจรรย์
ประวัติของแป๊ะโรงสีค่อนข้างลี้ลับ บางท่านเล่าว่าคราวหนึ่งเกิดพายุมีลมหอบร่างของท่านขึ้นไปบนฟ้าสามวันสามคืนเมื่อถึงเวลากลับลมก็หอบท่านกลับมา เมื่อกลับมาถึงบ้านท่านก็กลายเป็นผู้วิเศษเล่าลือกันว่าเซียนได้บันดาลลมประหลาดนี้มารับตัวท่านเพื่อรับเป็นศิษย์ประสิทธิประสาทวิชาเซียนให้
ท่านอาจารย์โง้วกิมโคย (แปะโรงสี)
นาย กิมเคย แซ่โง้ว เกิดที่ประเทศจีน ตำบลเท้งไฮ้ ได้เข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่เด็ก อายุประมาณ 10 ปี
เมื่อเติบโตพอที่จะประกอบอาชีพได้ ก็ได้รับจ้างทั่วไปรวมทั้งค้าข้าวเปลือก กิจการค้าข้าวเปลือกดีขึ้น จึงได้ร่วมหุ้นทำกิจการโรงสีข้าวที่ปากคลองบางโพธิ์ล่าง ปัจจุบันเป็นตำบลบางเดื่อ จังหวัดปทุมธานี และเมื่ออายุประมาณ 22 ปี ได้สมรสกับนาง นวลศรี เอี่ยมเข่ง มีบุตรด้วยกัน 10 คนคือ
1. นายเซียมจึง สมบูรณ์ธีระ
2. เสียชีวิตตอนเด็ก
3. นายธนิศ ทองศิริ
4. เสียชีวิตตอนเด็ก
5. นางยุพา แซ่แต้
6. นายรัตน์ ทองศิริ
7. นางยุพิน ภิญโญชีพ
8. เสียชีวิตตอนเด็ก
9. เสียชีวิตตอนเด็ก
10. นางยุวดี ทองคำปั้น
พร้อมทั้งได้ย้ายมาประกอบกิจการโรงสีไฟของตนเอง ที่ปากคลองเชียงรากเยื้องๆ กับวัดศาลเจ้า
โรงสีตั้งอยู่บนตำบลบางกะดี ในนามของ “โรงสีไฟทองศิริ” และได้โอนสัญชาติไทย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น “นายนที ทองศิริ”
กิจการโรงสีดีขึ้น และมั่นคงขึ้นมาก เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เรียกขนานนามท่านว่า “เถ้าแก่กิมเคย” หรือ “แปะกิมเคย” แม้ว่าท่านจะเป็นคนจีนดั้งเดิมแต่ท่านก็ชอบทานหมากพลู เช่นชาวไทยทั่วไป
ในยุคนั้นหน้าวัดศาลเจ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กระแสน้ำเชี่ยว และเป็นวังวนมีศาลเจ้าไม้เล็กๆอยู่(ตามประวัติศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อปู่” ชาวจีนเรียกว่า “ปึงเถ่ากงม่า” เมื่อท่านมีเวลาจะมาบูรณะ และคลุกคลีอยู่ที่ศาลเจ้าเป็นประจำ เนื่องจากท่านเป็นคนชอบช่วยเหลือคน ชอบทักทาย และชี้แนะให้ทุกคนประกอบแต่ความดี เป็นที่เคารพและศรัทธาของผู้คนทั่วไป
ในช่วงนั้นการคมนาคมยังไม่สะดวก ส่วนใหญ่การเดินทางจะเป็นทางน้ำ การบูรณะศาลเจ้าพ่อศาลเจ้าจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ท่านก็ได้ดำเนินการอย่างไม่หยุดหย่อน และได้ใช้การพายเรือไปช่วยเหลือผู้คนตามสถานที่ต่างๆ จึงมีผู้มีจิตศรัทธาช่วยท่านให้สามารถบูรณะศาลเจ้าพ่อศาลเจ้าไม้เล็กๆ ริมน้ำมาเป็นศาลเจ้าที่เป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่ได้
นอกจากการบูรณะศาลเจ้าแล้ว ท่านยังเป็นผู้กำหนดวันในการจัดงานประจำปีของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าเป็นวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1 ถึงวันขึ้น 8 ค่ำเดือน1 รวม 4 วัน 4 คืน ซึ่งทางชาวจีนเรียกช่วงนี้ว่า “เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป้ย” และถือเป็นประเพณีตลอดมา
ในการจัดงานประจำปี บางปีจะมีลมฝนมืดครึ้มคาดคะเนกันว่าจะมีพายุใหญ่ ท่านก็จะจุดธูปเพื่อปัดเป่าลมฝนไป ซึ่งฝนก็จะไม่ตก ท้องฟ้าแจ่มใส ผู้คนที่พบเห็นแจ้งว่าท่านอยู่ระหว่าง “เข้าทรง”
โดยเชื่อว่าท่านมีองค์ประทับอยู่ และยังเชื่อกันอีกว่าองค์ที่ประทับอยู่นั้นเป็นเจ้าพ่อปู่ของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้านั่นเอง เมื่อผู้คนที่มีความเชื่อมั่นและศรัทธา ขยายวง กล่าวออกไปในหมู่พ่อค้าทุกๆวงการค้า ทำให้ท่านมีศิษย์มากขึ้นและต่างเรียกท่านว่า “หวยลั้งเซียน”
เมื่อการคมนาคมสะดวกขึ้น ผู้ที่ศรัทธาท่านจากแหล่งต่างๆ มาพบท่านและให้ท่านช่วยเหลือ ชี้แนะเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ที่ตั้งบริษัท บ้าน ห้างร้าน และดูทำเลที่ตั้งฮวงซุ๊ยของบรรพบุรุษ ท่านก็ไปให้คำแนะนำ และชี้แนะทุกรายไป แม้กระทั่งไปยังต่างประเทศ ท่านก็ยังขึ้นเครื่องบินไปตามคำร้องขอซึ่งต้องจัดเตรียม หมากพลูไปด้วย ท่านช่วยเหลือบรรดาศิษย์ทุกๆ ท่าน โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย และไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ผู้ที่ท่านชี้แนะมักประสพความสำเร็จในธุรกิจ กิจการรุ่งเรื่องเป็นที่รู้จักในวงการค้าทั่วไป พร้อมทั้งบอกเล่าต่อๆกันไป
ผู้ที่เคารพศรัทธาเรียกท่านว่า “อาแปะ” พร้อมทั้งขนานนามท่านว่า “เซียนแปะ” จนกระทั่งทุกวันนี้
เมื่อประมาณปี พ.ศ.2518 ท่านได้ก่อสร้องตึกศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้าใหม่ โดยปรับปรุงจากเรือนไม้เป็นอาคาร 8 เหลี่ยม ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่ศรัทธาท่านและศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย ทุกๆวงการรวมทั้งบุตรหลานในครอบครัวของท่าน โดยใช้เงินในการก่อสร้างกว่า 7 แสนบาท ก่อสร้างเสร็จเมื่อต้นปี พ.ศ.2519 พร้อมทั้งทำพิธีเปิดในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2519
“เซียนแปะ” เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายผ่ายผอมลง หลังโค้งงอ แต่ก็ยังคงช่วยเหลือชี้แนะบรรดาศิษย์และผู้คนทั่วไปโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เช่นที่เคยปฏิบัติมาตลอด อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนเป็นที่เคารพรักของบรรดาศิษย์ทุกคน จนกระทั่งอายุ 85 ปี เมื่อปลายปี พ.ศ.2525 ท่านเริ่มมีอาการอ่อนเพลียจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไทย จนถึงเวลา 05.30 น.ของเช้าวันที่ 16 มกราคม 2526 ท่านก็ได้จบชีวิตลง จากครอบครัว และบรรดาศิษย์ทุกคนไปด้วยความสงบ นับเป็นการสูญเสียที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ หลังจากเสร็จพิธีงานศพท่าน บรรดาศิษย์ และครอบครัว ได้ทำการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ไว้ที่หลังศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า โดยใช้ชื่อว่า “ศาลานที ทองศิริ” พร้อมทั้งตั้งรูปปั้นจำลองขนาดเท่าตัวจริง เพื่อไว้ให้เป็นที่สักการะ และเป็นที่พึ่งทางจิตใจแก่บรรดาศิษย์และผู้คนทั่วไป
ทุกวันนี้ “เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป๊ย” เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของศิษย์และชาวบ้านชาววัดศาลเจ้าใกล้เคียงที่ยังคงระลึกถึงท่าน จะพร้อมใจกันมา นมัสการท่านพร้อมทั้งมาร่วมงานประจำปี ซึ่งมีการแสดงงิ้ว ของศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า “เซียนแปะ” เป็นผู้กำหนดวันไว้ ตราบจนทุกวันนี้
หน้าที่เข้าชม | 2,875,833 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,950,015 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |