รายละเอียดครูบาเมตตา จารชนวนนำฤกษ์ แผ่นทองคำ คาถาสี่หูห้าตา
มหาชนวนที่มากมายหลั่งไหลกันมารวมกัน ทั้งแผ่นจารคณาจารย์หลายรูป
ชนวนพระกริ่งสิทธิโชค ที่ครูบากฤษดา เมตตาเททองให้
เมื่อครั้งเททองหล่อพระพุทธไสยยาสน์แสนสุข
ชนวนพระจักรพรรดิสัมฤทธิโชคนิรันตราย ที่ครูบากฤษดา เป็นประธานเททอง
และหลวงตาม้าสวดพระคาถาพระจักรพรรดิ ณ วัดป่าพุทธปัญโญ
ชนวนทั้งหมดถูกหลอมรวมกันและได้รับเมตตาจากครูบากฤษดา
อธิษฐานจิตให้ในครั้งสุดท้าย ก่อนที่ จะนำไปหลอมอีกครั้งโดยมีพิธีบวงสรวงชนวน
มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยได้รับเมตตาจากหลวงปู่ครูบาดวงจันทร์
เขมรโตเป็นประธานหลอมรวมชนวนทั้งหมดก่อนเทเป็นพระกริ่ง
นับว่าพระกริ่งรุ่นนี้ครูบาท่านได้มีเมตตาต่อกระผมยิ่งนั้ก
พระชุดนี้ครูบาท่านได้ร่วมอธิษฐานจิต พร้อมกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายรูป (
ครูบาไม่ได้อธิษฐานจิตเดี่ยวนะครับ เป็นพิธีใหญ่
หากจะมีเพียงแต่มหาชนวนที่ครูบาท่านเมตตาในเบื้องต้นตามที่กล่าวไปครับ)เข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก พระกริ่งเจ็ดตำนานเจ็ดราตรีวัดหนองพันเงิน ต.ยุหว่า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
วันเสาร์ที่ ๙พฤศจิกายน ๒๕๖๒วาระที่ ๑โดยมีพระภาวนาจารย์ ทั้งหมด ๙ รูป ดังนี้๑.พระครู วินัยธร จำเริญ โรจนธมฺโม วัดแก้วเจริญยศ
จ.นครปฐม ประธานจุดเทียนชัยมงคล๒.พระครูโสภณรัตนสาร (หลวงปู่ครูบาอูปแก้ว)
วัดป่าลาน อ.บ้านธิ จ.ลำพูน๓.หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์ เขมรโต วัดมะกับตอง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่๔.หลวงปู่ครูบาอินถา ปัญญาวชิโร วัดโพธิ์ลังกา (วัดต้นโชค) อ.หางดง จ.เชียงใหม่๕.พระครูโสภณบุญโญภาส (ครูบาจง) วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อ.หางดง จ.เชียงใหม่๖.พระครูสมุห์คำนวณ ปริสุทฺโธ วัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม๗.ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง อ.บ้านธิ จ.ลำพูน๘.พระมหาวีระพล พุทธสาโร วัดหนองพันเงิน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่๙.พระอาจารย์ฐากูร ฐานกุโร วัดแม่แพะ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่๑๐.พระอาจารย์อำนาจ อาทิตตปุญฺโญ สำนักสงฆ์เขาสามล้าน จ.ชุมพร๑๑.สามเณรบุญชัย วัดเจดีย์สามยอด จ.ลำพูน๑๒พระมหาเถรานุเถระเจริญพระพุทธมนต์ ๙ รูปวาระที่ ๒พระมหาวีระพล พุทธสาโร วัดหนองพันเงิน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่วาระที่ ๓ หลวงปู่ครูบาจิต วัดป่ายาง(เหล่ามะเหยือง) อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูนวาระที่ ๔ หลวงปู่ครูบาบุญเป็ง วัดทุ่งปูน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่วาระที่ ๕ พระครูโสภณรัตนสาร (หลวงปู่ครูบาอูปแก้ว) วัดป่าลาน อ.บ้านธิ จ.ลำพูนวาระที่ ๖ พระครูอนันต์อรรถคุณ (หลวงปู่ครูบาบุญเลิศ) วัดต้นผึ้ง อ.ป่าซาง จ.ลำพูนวาระที่ ๗ พิธีมหาพุทธาภิเษก พระกริ่งเจ็ดตำนานเจ็ดราตรี พิธีปิดโดยมีพระภาวนาจารย์ ทั้งหมด ๔ รูป ดังนี้๑.พระครูพันธสมณวัฒน์ (หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ) วัดป่าวุฑฒาราม จ.หนองบัวลำภู๒.หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์ เขมรโต วัดมะกับตอง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่๓.เจ้าสย่าต่อหลวงอูวิเจ่ยยะ องค์สังฆนายกฝ่ายไตย วัดกองมูคำ เขมรัฐ นครเชียงตุง๔.ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง อ.บ้านธิ จ.ลำพูน๕.คณะสวดเบิกวัดกู่เสือ สวดเบิกเนตร๖.แสดงพระธรรมเทศนา มหาพุทธาภิเษก
โดย พระมหาวีระพล พุทธสาโร วัดหนองพันเงิน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่เนื้อชนวนผสม 427 องค์เริ่มเสก 5 พ.ย.2562 จบพิธี 11 ธ.ค.2562
---------
วิธีบูชาท่าน
บูชาไปแล้ว นำท่านหันหน้าออกทางหน้าบ้าน
แล้วก็ถวายถ่าน(ฟืน) ให้สี่หูห้าตา ยิ่งเผาแดง ๆ ยิ่งดี
หรือจะใช้ถ่านดิบถวายและเปลี่ยนทุกวันพระก็ได้พอลาก็นำไปเผาให้ท่าน
และหมั่นอุทิศบุญกุศลที่เราได้ทำให้ท่านเสมอ
ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าสี่หูห้าตาที่ท่านได้รับไป
คือ พระอินทร์ที่ท่านจำแลงกายมา เหตุที่ต้องถวายท่านด้วยถ่านเพราะ
ท่านกินถ่านแล้วถ่ายออกมาเป็นทองคำ
ท่านจะช่วยให้มีความคล่องตัวในชีวิตความเป็นอยู่
ลาภสักการะมีความคล่องตัวขึ้น การปฏิบัติสมาธิเจริญกรรมฐาน
ก็ขอให้ท่านช่วยสงเคราห์ได้ สุดแต่ท่านจะอธิษฐานขอพรตามใจปรารถนา
(ถ้าอฐิษฐานขอเรื่องเฉพาะให้ตอนอฐิษฐานเอามือลูบที่ก้อนอึทองคำ
ถ้าสำเร็จให้เผาถ่านแดงๆบูชาท่านเยอะๆ)
----------
#ตำนานพื้นบ้านพญาอินทร์แปลง(สี่หูห้าตา)
ฉบับ ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้วได้มีชายหนุ่มกำพร้าเข็ญใจ
มีฐานะค่อนข้างลำบากยากเข็ญแต่เป็นคนขยันขันแข็ง
ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ยังชีพด้วยการปลูกข้าว
และพืชผักพอยังชีพในที่ดินผืนเล็ก ๆ
มีอยู่ปีหนึ่งเกิดฝนฟ้าไม่ต้องตามฤดูกาล
เกิดทุกขเพศภัยต้นข้าวที่ปลูกไว้เหี่ยวเฉาตาย
ทำให้เกิดความทุกข์ใจแก่ชายหนุ่มผู้นี้เสียมาก
แต่ก็พอยังมีต้นข้าวส่วนน้อยอีกส่วนที่ไม่ตาย ยังให้ชายเข็ญ
พอมีอาหารไว้ประทังชีวิตวันข้างหน้าอยู่บ้าง
กล่าวถึงท่านท้าวสักกะเทวราช บนวิมานแมนแดนสรวง
เล็งแลเห็นความทุกข์ยากลำบาก
ในความเป็นอยู่ของชายผู้อาภัพวาสนา
จึงบังเกิดความเมตตาแปลงกาย จำแลงแถลงร่างมาช่วย
ชายหนุ่มอาภัพโชคผู้นี้โดยแปลงเป็นสัตว์ประหลาด
มีหู 4หู มีตา 5 ตาซึ่งในโลกมนุษยจักไม่มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้
สัตว์ประหลาดตัวนี้ปรากฏตัวขึ้นที่ผืนนาที่ทำกินของชายเข็ญใจ
เข้าไปทำลายต้นข้าวอันเหลือน้อยนิดจนหมดสิ้น
ชายเข็ญใจมาพบเข้าจึงบังเกิดโทสะคิดจะฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ทันที
แต่ก็หามีอาวุธใดที่จะทำร้ายสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่
ได้จนเวลาผ่านไปชายเข็ญใจได้จับสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้
จึงจับมาขังไว้ที่กระท่อมของตน โดยได้ผูกติดไว้กับเสาไม้
เมื่อถึงเวลาเย็น ชายเข็ญใจต้องหุงหาอาหารรับประทานตามยะถากรรม
จึงบังเกิดความเมตตาแบ่งอาหาร
ให้แก่สัตว์ประหลาดตัวนั้นแต่มันไม่ยอมกินแม้แต่น้อย
และดูเหมือนว่ามันกำลังหนาวจัด ต้องการความอบอุ่นมาก
ชายเข็ญใจจึงไปหาฟืนแล้วก่อกองไฟให้มัน เมื่อความอ่อนเพลียมา
ถึงชายเข็ญใจได้หลับไปตื่นมาอีกทีพบว่า
สัตว์ประหลาดนั้นจับเอาถ่านไฟแดง ๆ ร้อน
ในกองเพลงไปกินเป็นอาหารจึงสร้างความอัศจรรย์แก่ชายผู้นั้นมาก
เมื่อตื่นมาตอนเช้าพบว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้กินก้อนถ่านไฟจนหมด
แล้วยังขับถ่ายออกมาเป็นก้อนทองคำ ชายเข็ญใจจึงนำทองคำไปขาย
และได้กลายเป็นเศรษฐีร่ำรวยต่อมาในที่สุด
นิทานธรรมเรื่องนี้ ท่านกล่าวไว้เป็นปริศนาธรรมไว้ว่า
สัตว์ประหลาดแมงสี่หูห้าตานั้นแท้จริงแล้วคือ ศีล 5และพรหมวิหาร 4 นั่นเอง
ถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าในโลกมนุษย์นี้ หากผู้ใด มั่นรักษา ศีล5และพรหมวิหาร 4
ไว้บุคคลผู้นั้นจักไม่ตกต่ำ ชีวิตจะพบแต่ความสุขความเจริญ
มีพระคาถาแมงสี่หูห้าตา ในพับสาโบราณที่ครูบาอาจารย์
ท่านได้เมตตาสืบทอดต่อกันมา นับเป็นมรดกล้ำค่าที่เราควรอนุรักษ์
สวดบูชากันไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
และรักษามิให้ของดีจากพับสาล้านนาหายสาบสูญไป