ข้อมูลอ้างอิง
"รุ่นนี้กูแก้แบบให้สี่หูห้าตาหลังตรงจะได้ขี้คล่อง #ลาภจะได้ไหลสะดวก"
✨พระอาจารย์บ๊ะ จารมือที่ฐาน จารตัวปิ
ถามท่านท่านบอกว่าย่อมาจาก
ปิยเทวมนุสสานัง คือ เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา
✨เสกตลอดไตรมาส
✨ขนาดสูง ๑๑ เซนติเมตร, ฐานกว้าง ๖ เซนติเมตร
✨หลังตรงจะได้ขี้คล่อง #ลาภจะได้ไหลสะดวก"
พระอาจารย์บ๊ะท่านได้อธิษฐานเน้นเรื่องโชคลาภ
ความคล่องตัวโดยตรง ท่านบอกว่า
"รุ่นนี้กูแก้แบบให้สี่หูห้าตาหลังตรงจะได้ขี้คล่อง ลาภจะได้ไหลสะดวก"
วิธีบูชาท่าน
บูชาไปแล้ว นำท่านหันหน้าออกทางหน้าบ้าน
แล้วก็ถวายถ่าน(ฟืน) ให้สี่หูห้าตา ยิ่งเผาแดง ๆ ยิ่งดี
หรือจะใช้ถ่านดิบถวายและเปลี่ยนทุกวันพระก็ได้พอลาก็นำไปเผาให้ท่าน
และหมั่นอุทิศบุญกุศลที่เราได้ทำให้ท่านเสมอ
ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าสี่หูห้าตาที่ท่านได้รับไป
คือ พระอินทร์ที่ท่านจำแลงกายมา เหตุที่ต้องถวายท่านด้วยถ่านเพราะ
ท่านกินถ่านแล้วถ่ายออกมาเป็นทองคำ
ท่านจะช่วยให้มีความคล่องตัวในชีวิตความเป็นอยู่
ลาภสักการะมีความคล่องตัวขึ้น การปฏิบัติสมาธิเจริญกรรมฐาน
ก็ขอให้ท่านช่วยสงเคราห์ได้ สุดแต่ท่านจะอธิษฐานขอพรตามใจปรารถนา
(ถ้าอฐิษฐานขอเรื่องเฉพาะให้ตอนอฐิษฐานเอามือลูบที่ก้อนอึทองคำ
ถ้าสำเร็จให้เผาถ่านแดงๆบูชาท่านเยอะๆ)
----------
#ตำนานพื้นบ้านพญาอินทร์แปลง(สี่หูห้าตา)
ฉบับ ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้วได้มีชายหนุ่มกำพร้าเข็ญใจ
มีฐานะค่อนข้างลำบากยากเข็ญแต่เป็นคนขยันขันแข็ง
ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ยังชีพด้วยการปลูกข้าว
และพืชผักพอยังชีพในที่ดินผืนเล็ก ๆ
มีอยู่ปีหนึ่งเกิดฝนฟ้าไม่ต้องตามฤดูกาล
เกิดทุกขเพศภัยต้นข้าวที่ปลูกไว้เหี่ยวเฉาตาย
ทำให้เกิดความทุกข์ใจแก่ชายหนุ่มผู้นี้เสียมาก
แต่ก็พอยังมีต้นข้าวส่วนน้อยอีกส่วนที่ไม่ตาย ยังให้ชายเข็ญ
พอมีอาหารไว้ประทังชีวิตวันข้างหน้าอยู่บ้าง
กล่าวถึงท่านท้าวสักกะเทวราช บนวิมานแมนแดนสรวง
เล็งแลเห็นความทุกข์ยากลำบาก
ในความเป็นอยู่ของชายผู้อาภัพวาสนา
จึงบังเกิดความเมตตาแปลงกาย จำแลงแถลงร่างมาช่วย
ชายหนุ่มอาภัพโชคผู้นี้โดยแปลงเป็นสัตว์ประหลาด
มีหู 4หู มีตา 5 ตาซึ่งในโลกมนุษยจักไม่มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้
สัตว์ประหลาดตัวนี้ปรากฏตัวขึ้นที่ผืนนาที่ทำกินของชายเข็ญใจ
เข้าไปทำลายต้นข้าวอันเหลือน้อยนิดจนหมดสิ้น
ชายเข็ญใจมาพบเข้าจึงบังเกิดโทสะคิดจะฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ทันที
แต่ก็หามีอาวุธใดที่จะทำร้ายสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่
ได้จนเวลาผ่านไปชายเข็ญใจได้จับสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้
จึงจับมาขังไว้ที่กระท่อมของตน โดยได้ผูกติดไว้กับเสาไม้
เมื่อถึงเวลาเย็น ชายเข็ญใจต้องหุงหาอาหารรับประทานตามยะถากรรม
จึงบังเกิดความเมตตาแบ่งอาหาร
ให้แก่สัตว์ประหลาดตัวนั้นแต่มันไม่ยอมกินแม้แต่น้อย
และดูเหมือนว่ามันกำลังหนาวจัด ต้องการความอบอุ่นมาก
ชายเข็ญใจจึงไปหาฟืนแล้วก่อกองไฟให้มัน เมื่อความอ่อนเพลียมา
ถึงชายเข็ญใจได้หลับไปตื่นมาอีกทีพบว่า
สัตว์ประหลาดนั้นจับเอาถ่านไฟแดง ๆ ร้อน
ในกองเพลงไปกินเป็นอาหารจึงสร้างความอัศจรรย์แก่ชายผู้นั้นมาก
เมื่อตื่นมาตอนเช้าพบว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้กินก้อนถ่านไฟจนหมด
แล้วยังขับถ่ายออกมาเป็นก้อนทองคำ ชายเข็ญใจจึงนำทองคำไปขาย
และได้กลายเป็นเศรษฐีร่ำรวยต่อมาในที่สุด
นิทานธรรมเรื่องนี้ ท่านกล่าวไว้เป็นปริศนาธรรมไว้ว่า
สัตว์ประหลาดแมงสี่หูห้าตานั้นแท้จริงแล้วคือ ศีล 5และพรหมวิหาร 4 นั่นเอง
ถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าในโลกมนุษย์นี้ หากผู้ใด มั่นรักษา ศีล5และพรหมวิหาร 4
ไว้บุคคลผู้นั้นจักไม่ตกต่ำ ชีวิตจะพบแต่ความสุขความเจริญ
มีพระคาถาแมงสี่หูห้าตา ในพับสาโบราณที่ครูบาอาจารย์
ท่านได้เมตตาสืบทอดต่อกันมา นับเป็นมรดกล้ำค่าที่เราควรอนุรักษ์
สวดบูชากันไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
และรักษามิให้ของดีจากพับสาล้านนาหายสาบสูญไป