วัดบางปลาหมอ จัดสร้างปี พ.ศ. 2537
"ทรงไก่"เสริมเมตตามหานิยม หน้าที่การงาน ค้าขาย
(พระผงกรุแตก วัดบางปลาหมอ จ.อยุธยา)
น้อมบารมี "หลวงปู่สุ่น" นำพิธีปลุกเสก และนิมนต์
💥หลวงพ่อเล็ก ร่วมปลุกเสก (นำเข้าพิธีเพิ่มเติมใน วาระที่3 ปี พศ.2563)
มวลสารต่างที่ผสมลงนในเนื้อพระ อาทิ
1.มวลสาร พระผง วัดปากน้ำ รุ่น1 ถึง รุ่น7
รับประกันแท้100% ตลอดชีพ ไม่แท้คืนเงินเต็ม
ปลุกเสก เข้าพิธี 3 วาระ
✨ เรื่องราว การสร้างพระผง วัดบางปลาหมอ
เนื่องด้วยคณะศิษย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
มีความประสงค์จะทนุบำรุง ซ่อมแซม และสร้างอุโบสถ วัดบางปลาหมอ
จึงได้จัดสร้างพระผงรุ่นนี้ขึ้น เพื่อแจกแก่ผู้ร่วมทำบุญในการนั้น
โดยได้นำมวลสารของพระผงวัดปากน้ำ รุ่น๑ ถึง รุ่น๗ มาเป็นมวลสารหลัก
(วาระที่๑ พศ. ๒๕๓๗)
คณะศิษย์วัดปากน้ำ ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดปากน้ำ
โดยใช้ "วิชาธรรมกาย" ของหลวงพ่อ สด จันทสโร ในการปลุกเสก
หลังจากนั้น ทางวัดบางปลาหมอ ได้นำพระผง
ที่เหลือจากการแจกผู้ทำบุญ มาบรรจุกรุ ใต้ฐานมณฑปหลวงพ่อสุ่น
โดยก่อนบรรจุ
ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์หลายรูปร่วมปลุกเสก
(วาระที่๒ พศ. ๒๕๓๗)
ได้แก่
1. หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
2. หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
3. หลวงพ่อทิม วัดพระขาว
4. หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
5. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน เป็นต้น
หลังจากนั้น มณฑป (เดิม) เกิดการทรุดตัวและใต้ฐานได้แตกออกมา
ในวันที่ ๒๙ มกราคม พศ. ๒๕๖๒ ทางวัดบางปลาหมอ
ได้พบพระผงรุ่นนี้ ที่บรรจุในกรุใต้ฐานมณฑปหลวงพ่อสุ่น แตกออกมา
ทางวัดบางปลาหมอ ได้รวบรวมปัจจัย
สร้างมณฑปหลวงพ่อสุ่นขึ้นใหม่
และได้ทำพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล รุ่น ฉลองมณฑป
และได้นำพระผงรุ่นนี้ เข้าพิธีพุทธาภิเษกนี้ด้วย
(พิธีปลุกเสก วาระที่ 3)
วันที่ ๒๘ ตุลาคม พศ. ๒๕๖๓
โดยมีพระเกจิอาจารย์ร่วมปลุกเสก ดังนี้
1. หลวงพ่อมหาสุรศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดประดู่
2. หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
3. หลวงพ่อธูป วัดลาดน้ำขาว
4. หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
5. หลวงพ่อแก่ วัดใหม่กบเจา
6. พระครูชินธรรมาภรณ์ วัดสีกุก
7. พระอาจารย์ปืน วัดลาดชะโด เป็นต้น
----------------
✨ พระผงของขวัญวัดปากน้ำ
เป็นพระที่มีพุทธคุณอันเป็นที่เลื่องลือทั้งด้าน
เมตตามหานิยม มหาลาภ แคล้วคลาดคงกระพัน
จนชาวบ้านพูดกันติดปากว่า
"ถ้ามีพระวัดปากน้ำอยู่กับตัวแล้ว ในน้ำไม่ตาย
บนบกไม่ตาย กลางอากาศไม่ตาย ลาภผลไม่ขาดมือ
และมีค่าเท่ากับสมบัติพันล้าน หากมุ่งหวังสิ่งใด
ก็ให้อธิษฐานเถิดจักเกิดสัมฤทธิผลทุกประการ"
✨ เรื่องราวของ หลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ
อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
“หลวงพ่อสุ่น” ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ ชาวอ.เสนา บางบาล บางไทร
และจังหวัดใกล้เคียงต่างเคารพรักศรัทธาท่านมาก
น่าเสียดายที่ประวัติของหลวงพ่อสุ่นนั้นไม่มีใครบันทึกเรื่องราวเอาไว้
จึงไม่ทราบว่าท่านเกิดที่ไหน วันเดือนปีอะไร และบวชเรียนเมื่อใด
จากปากคำของคนเฒ่าคนแก่บอกเล่ากันว่า
ท่านเป็นสมภารองค์แรกซึ่งปกครองวัดบางปลาหมออยู่นานพอสมควร
เป็นพระวิปัสสนากรรมฐานผู้ทรงอภิญญา
มีวิชาอาคมไสยเวทย์เปี่ยมล้น
นอกจากนี้ยังเป็นพระหมอรักษาไข้ และเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย
เหตุนี้จึงมีผู้ให้ความเคารพนับถือท่านมาก
นัยว่ามีเจ้านายจากกรุงเทพฯ
เคยมาพักที่วัดให้ท่านรักษาโรคด้วย
จากบันทึกของ “พระราชพรหมญาณ”
หรือ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” วัดท่าซูง
ลูกศิษย์รูปหนึ่งของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
ได้บันทึกไว้ว่า “หลวงพ่อสุ่นเป็นพระอุปัชฌาย์หลวงพ่อปาน
ครั้นหลวงพ่อปานบวชแล้วก็ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อสุ่น
ที่วัดบางปลาหมอ เพื่อศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมต่างๆ
จากพระอาจารย์ ซึ่งหลวงพ่อสุ่นเองก็รักใคร่
ในตัวของหลวงพ่อปาน ถ่ายทอดวิชาอาคม ต่างๆให้”
หลวงพ่อปานนั้น มีความรักอยากจะเรียนทางหมอรักษาคนไข้
แต่หลวงพ่อสุ่นอยากให้ศิษย์รักรับวิชาอาคมต่างๆ เอาไว้ด้วย
ดังนั้นการเรียนการสอนจึงมีทั้งไสยเวทย์
และทางหมอยาควบคู่กันไปด้วย
วิชาอาคมของหลวงพ่อสุ่นนั้นสูงมาก
ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ท่านจะตรวจดูด้วยญาณทิพย์
แล้วรักษาตามโรคนั้น ส่วนใหญ่จะหายกลับไปทุกราย
ยกเว้นผู้ที่ถึงฆาตจริงๆ ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ต่างๆนั้น
ท่านมักจะไม่ทำให้ผู้ใดเห็น เกรงว่าจะกลายเป็นพระผู้อวดคุณวิเศษไป
ปัจจัยที่ญาติโยมให้มาจากการรักษาโรคท่าน
ก็นำมาซ่อมสร้างวัดจนหมดสิ้น
นอกจากช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บให้แก่คนทั่วไปแล้ว
ท่านยังเป็นพระเถระผู้มีความสามารถในทางเทศนาอบรม
สั่งสอนสาธุชนอีกด้วย ทำให้วัดบางปลาหมอสมัยนั้นรุ่งเรือง
มีผู้คนเข้าออกวัดแต่ละวันเป็นจำนวนมาก
มีทั้งไปปฏิบัติธรรมและไปรักษาไข้
หลวงพ่อสุ่นมรณภาพเมื่อปีพ.ศ.อะไรไม่ปรากฏแน่ชัด
แต่ภาพที่ปรากฏคือ ท่านมรณภาพในท่าไสยาสน์
วัตถุมงคลทุกรุ่นได้รับความนิยมสูง
โดยเฉพาะพระเนื้อดินหายากมาก
ชาวบ้านบางปลาหมอต่างหวงแหนอย่างที่สุด
-----------
เรื่อง.* อภิญญาของหลวงพ่อสุ่น
อาจารย์ของหลวงพ่อปาน *
* หลวงพ่อฤาษีลิง~พระราชพรหมยานฯ.. เล่าให้ฟัง
..." หลวงพ่อสุ่น องค์นี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ มีความเคารพมาก..
~ มีอยู่คราวหนึ่ง เมื่อพระองค์เสด็จไปจอดเรืออยู่หน้าวัด ( วัดบางปลาหมอ ) มองเห็นนกกระยางบินผ่านมาหน้าวัด ก็ยกพระแสงปืนยิง ปรากฏว่า.. ปืนยิงไม่ออก..
~ และผลที่สุด จะหันปากกระบอกปืน ไปทางไหน อากาศในบริเวณวัดนั้นทั้งหมด ยิงไม่ออก..
~ พระองค์มีความสงสัย เลยขึ้นไปหาท่านเจ้าอาวาส
สมัยนั้นคือ หลวงพ่อสุ่น..
~ หลวงพ่อเลยบอกว่า : อย่าว่าแต่อากาศเลย
อะไรในวัดนี้ก็ยิงไม่ออกทั้งนั้น.
~ ท่านถามว่า : เป็นเพราะอะไรครับ..
~ หลวงพ่อสุน ท่านบอกว่า : เป็นเพราะอำนาจพุทธานุภาพ
* พระองค์ได้ฟังอย่างนั้นก็ปลื้มใจและเกิดปีติ และมีความมั่นใจ.
~ ก็เลยถามว่า : ถ้ากระผมอยากจะเป็นคนยิงไม่ออกบ้างจะได้ไหมครับ..
~ ท่านก็บอกว่า : ได้.. แต่ต้องรับปากเสียก่อนว่า..
นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในเขตบริเวณวัดทั้งหมด
จะไม่ทำอันตรายต่อสัตว์ จะไม่ละเมิดของสงฆ์..
* ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ก็รับคำ
แล้วหลวงพ่อสุ่นก็ขอพระแสงปืนประจำตัว
เป็นปืนเล็ก ๆ กระบอกหนึ่ง เอามาเสก.. เสกแล้วก็ส่งให้..
~ ท่านบอกว่า : นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ถ้าพระองค์ติดพระแสงปืนกระบอกนี้อยู่ล่ะก็
ยิงไม่ออก อาวุธทุกอย่างทำอะไรพระองค์ไม่ได้..
~ พระองค์ก็บอกว่า : อาวุธทุกอย่างอาจจะไม่ได้ติดตัวในบางขณะ และผมอยากจะให้ตัวผมเอง ไม่มีอันตรายจากอาวุธ..
~ หลวงพ่อสุน ก็บอกว่า : ถ้าอย่างนั้น ก็ก้มพระเศียรมา..
* ในหลวง ท่านก็ก้มพระเศียรลงไป หลวงพ่อสุ่นก็ลงกระหม่อมให้ แล้วก็บอกให้มหาดเล็กลองยิง ให้ยิงเดี๋ยวนั้น ปรากฏว่า.. ยิงไม่ติด ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ ๖ มีความเลื่อมใสมาก.
* นี่ เป็นปฏิปทาอีกตอนหนึ่งของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ( จ.พระนครศรีอยุธยา ) ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อปาน.
~ ที่นำเอาประวัติของพระคู่สวด และพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อปาน มาเล่าให้ฟัง ก็เพื่อจะได้ทราบว่า..
* คนที่มีบุญญาธิการสูง มีบารมีมากอย่างหลวงพ่อปาน ท่านจึงพบแต่ครูบาอาจารย์ที่ดีมีความเป็นพระจริง ๆ มีความเคร่งครัด มีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิตั้งมั่น มีวิปัสสนาญาณแจ่มใส มีความรู้ความสามารถครบถ้วนทุกอย่าง และมีการสำเร็จมรรคผลมาก่อน..
~ จึงจัดว่า เป็นการเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่เกิดมาบำเพ็ญบารมีเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า..."
( จากหนังสือ *ธัมมวิโมกข์*
พ.ศ. ๒๕๒๕ ฉบับที่ ๒๓
หน้าที่ ๑๑๖-๑๑๙ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี )
