รหัสสินค้า | SKU-01613 |
หมวดหมู่ | หลวงปู่เท วัดยี่ง้อ |
ราคา | 850.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
ลงสินค้า | 28 ก.ค. 2562 |
อัพเดทล่าสุด | 31 ก.ค. 2562 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
#กุมารดูดรก รุ่นแรก หลวงปู่เท วัดยี่งอ ที่สร้างจากตำรับวิชากุมารดูดรกอันลือลั่นของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และอุดด้วยดินอาถรรพ์ตามสายวิชาหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม สร้างเป็นกุมารดูดรกรุ่นแรก ที่เปี่ยมไปด้วยความเข้มขลัง ทั้งเชิญครูบาอาจารเจ้าของวิชาร่วมปลุกเสกสำเร็จจนเกิดอัศจรรย์ลมหอบ ลูกศิษย์บูชาแล้วได้โชค มีลาภ ประสบการณ์เพียบ!!!
ครั้งแรกของการจัดสร้าง #กุมารดูดรก (พระสีวลีในครรภ์) แบบเต็มวิชาของหลวงปู่เท วัดยี่งอ จ.นราธิวาส อายุ 104 ปี สร้างตามตำราหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ผู้เป็นอาจารย์ #วิชากุมารดูดรกของหลวงพ่อแช่มหนึ่งเดียวที่แตกต่างจากกุมารทองของสำนักอื่นๆ
#ทำไมจึงชื่อว่ากุมารดูดรก? หลวงพ่อแช่มท่านกรุณาถ่ายทอดความรู้ไว้ให้ว่า กุมารของท่านนั้นไม่ใช่เด็กธรรมดา ไม่ใช่เด็กเทพ เด็กผี หรือ แม้กระทั่งเด็กที่เกิดจากการผูกพยนต์ (ผูกหุ่น) แต่กุมารในวิชานี้เป็นพระสิวลี มหาเถระ ผู้เป็นเอตทัคคะในบรรดาภิกษุผู้เลิศด้วยลาภ และเลิศด้วยยศทั้งหลาย ในตอนที่ท่านอยู่ในครรภ์มารดาถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน
พระสีวลีเถระ เป็นพระโอรสของพระนางสุปปวาส ผู้เป็นพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงโกลิยะ อยู่ในพระครรภ์ถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน เมื่อทรงพระครรภ์ทำให้พระมารดาสมบูรณ์ด้วยลาภสักการะมาก เมื่อประสูติก็ประสูติง่าย ด้ายพุทธานุภาพที่พุทธเจ้าทรงพระราชทานพรว่า "ขอพระนางสุปปวาสาจงมีความสุข ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชบุตรผู้ไม่มีโรคเถิด" เมื่อประสูติและพระประยูรญาติขนานถวายพระนามว่า สีวลีกุมาร ในวันที่นิมนต์พระพุทธเจ้ามาเสวยภัตตาหารตลอด ๗ วัน สีวลีกุมารก็ได้ถือธมกรกรองน้ำถวายพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ตลอด ๗ วัน เมื่อเจริญวัย ท่านได้ออกผนวชในสำนักพระสารีบุตร ได้บรรลุอรหันตผลในเวลาปลงเกศาเสร็จ จากนั้นมาท่านสมบูรณ์ด้วยลาภสักการะไม่ขาดด้วยปัจจัย ๔ ทั้งปวง ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทาง ผู้มีลาภมาก
เนื่องจากพระสีวลีเถระเป็นพระอรหันต์ที่ได้รับการเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางผู้มีลาภมาก คนไทยเชื่อว่าผู้ใดได้บูชาพระสีวลีเถระแล้ว จะได้รับโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ซึ่งคนไทยก็เชื่ออีกว่าเคยมีผู้หนึ่งเคยได้รับมาแล้วในสมัยพุทธกาลก็คือ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเกิดในตระกูลพ่อค้ามีนามว่า สุภาวดี นางได้เลื่อมใสศรัทธาพระพุทธศาสนา และนับถือพระสีวลีเถระเป็นอย่างยิ่ง เมื่อแม่นางได้ฟังธรรมจนลึกซึ้ง พระสีวลีก็ให้ศีลและให้พรว่า"จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สิน เงินทองจากการค้าขาย เงินทองไหลมาเทมาสมความมุ่งมาดปรารถนาด้วยเถิด" หลังจากที่นางสุภาวดีได้รับพรจากพระสีวลีเถระแล้ว ไม่ว่านางและผู้เป็นบิดามารดาจะไปค้าขายที่ใด ก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีแต่กำไรหลั่งไหลเข้ามาทุกครั้งไป ซึ่งต่อมานางสุภาวดีนั้นได้เป็นที่รู้จักของคนไทยเป็นอย่างดี เพราะนางคือนางกวักนั่นเอง
อานุภาพแห่งรกในทางไสยศาสตร์และพุทธาคมรก เป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่แม่ตั้งครรภ์ มีลักษณะคล้ายกับฟองน้ำขนาดใหญ่ที่พัฒนามาจากเนื้อเยื่อของทารก โดยมีสายสะดือประกอบด้วยหลอดเลือดอยู่ภายใน สายนี้ช่วยเชื่อมต่อระหว่างรกกับระบบต่างๆ ของแม่ เพื่อเป็นช่องทางในการส่งผ่านเลือด สารอาหาร อากาศ และสารคัดหลั่งต่างๆ ระหว่างแม่สู่ทารกในครรภ์
#จากคุณสมบัติของรกที่มีแต่พระคุณของแม่ในการปกป้องและหล่อเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ให้มีอาหารกินทุกวันนั่นเอง จึงก่อให้เกิดคติความเชื่อในทางไสยศาสตร์และพุทธาคม โดยเชื่อว่าเส้นยันต์ที่เราเขียนขึ้นนั้นคือสายรกของพระพุทธเจ้าที่ผ่องถ่ายความศักดิ์สิทธิ์สู่ตัวยันต์เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บูชา อีกทั้งพระเกจิอาจารย์ในยุคต้นยังอาศัยอำนาจของรกซึ่งเป็นตัวแทนแห่งพระคุณของแม่มาใช้ในการคุ้มครองตนเองก่อนทำพิธีการทางไสยศาสตร์โดยผูกเป็นมนต์คาถาต่างๆอีกมากมายหลายบท อย่างเช่น “ มะอะอุ กูลูกพระพุทธ มึงลูกพระธรรม เอารกหนามารองนั่ง เอารกบางมาหุ้มตัว นามะถะทูนขึ้นเหนือหัว ครูปาธิยายกรรมสิทธิให้แก่กู ตะมะถังปะกาเสนโต สัตถาอาหะ นะโมตัสสะฯ-“ ซึ่งเป็นพระคาถาจากตำราของหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง จังหวัดพิจิตร แต่ใช่ว่าพระคาถาที่อาศัยคุณอำนาจจากรกนี้จะมีเพียงแต่ในไสยศาสตร์ทางภาคกลางเท่านั้น ทางภาคใต้ของไทยเราก็มีเช่นกันอย่างของหลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันตก ซึ่งเป็นศิษย์สำนักเขาอ้อ ท่านก็ใช้คาถาเกี่ยวกับอำนาจแห่งรกเช่นกันว่า “อ้ายตุดมึงลูกมนุษย์ กูลูกพระธรรม รกหนามึงรองนั่ง รกบางห่อตัว น้ำทังทูนหัว ลูกอ้ายหมาตุด" หรือ “เอารกหนาแม่มารองนั่ง เอารกบางแม่มาหุ้มตัว เอาน้ำทังแม่มาทูลหัว มาเป็นกงจักรแก้ว ครอบตัวของลูกไว้แล้ว นิตติ จิตติ จับปัตติสนธิ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา อิติปิโสภควา อรหังสัมมาสัมพุทโธ ฯ”
คาถาที่กล่าวถึงอำนาจแห่งรกยังมักนำมาใช้ในการปลุกเสกเครื่องรางของขลังหรือเลขยันต์ที่เกี่ยวข้องกับครรภ์ของมารดาอยู่ไม่น้อยอย่างเช่นคาถาของหลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันตก จังหวัดพัทลุง ท่านก็นำมาใช้ปลุกเสกพระปิดตาในครรภ์จนโด่งดังเพราะเกิดอานุภาพทางเมตตา และโชคลาภสูง นอกจากนั้นก็ยังมีการนำคาถาที่เกี่ยวกับรกนี้มากำกับการลงยันต์ได้ด้วย อย่างเช่น ยันต์เฑาะว์ในครรภ์ที่มีการใช้กันอยู่ในพระเกจิอาจารย์โบราณสายสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง หรือ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ก็ทรงอานุภาพทางคุ้มครองป้องกันภัย เมตตาและโชคลาภแบบกินไม่หมด อดไม่เป็น
#ทำไมจึงต้องเป็นกุมารดูดรก?
ด้วยเหตุแห่งอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ทางโชคลาภของพระสิวลีตอนอยู่ในครรภ์ และความสำคัญของรกซึ่งเปรียบเสมือนพระคุณของแม่ที่ปกป้องเลี้ยงดูลูก ครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาท่านจึงนำวิชาทั้งสองนี้มาผนวกรวมกันโดยไม่ลืมนำวิชาเฑาะว์ในครรภ์มาลงเป็นยันต์ประทับหลังสร้างเป็นกุมารดูดรก เพราะเป็นสัญลักษณ์ของกุมารที่ได้อาหารจากทางสายรกอยู่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนว่าผู้ที่บูชากุมารดูดรกนี้ไว้จะได้รับความคุ้มครองปลอดภัย มีความเจริญเติบโตและมีกินมีใช้มีโชคลาภอยู่ตลอดเวลาไม่มีหมด เหมือนตอนที่ทารกอยู่ในครรภ์ของมารดา ยิ่งทารกนั้นเป็นพระสิวลีตอนที่อยู่ในครรภ์ของพระมารดาด้วยแล้ว
#อานุภาพทางโชคลาภยิ่งมากมายมหาศาลหลายเท่าทวีคูณ เหตุนี้เองกุมารดูดรกของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จึงเป็นที่ใฝ่หาเช่าบูชากันในราคาแพง กุมารตัวเล็กกว่าปลายนิ้วก้อย เคยมีผู้เช่าต่อจากเซียนใหญ่ไปในราคากว่าแสนก็เพราะเห็นประสบการณ์ทางโชคลาภไม่ขาดสายมานั่นเอง แต่ด้วยราคาเช่าหาที่สูงมากดังกล่าว ทำให้มีของปลอมระบาดออกมามาก ในที่สุดบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่เท สุธมฺโม จึงขอร้องให้หลวงปู่ท่านทำออกมาให้บูชาบ้าง พวกเราเลยมีโอกาสได้บูชาของดีๆเช่นนี้กับเขาด้วยเหมือนกัน
หน้าที่เข้าชม | 2,875,833 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,950,015 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |