#คัดลอกจากบ้านเติมบุญ
เมื่อต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๓
โดย #พระครูวิลาสศกาญจนธรรม
(พระอาจารย์เล็กวัดท่าขนุน)
พระอาจารย์เล่าว่า “งานพุทธาภิเษก
ที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา
นอกจากครูบาอาจารย์ ที่มาสงเคราะห์ตามปกติแล้ว
ก็มีระดับท่านอาจารย์ปู่ ก็คือ #หลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอมาด้วย
อาตมาเองดีใจมาก เพราะว่าโดยปกติแล้วลืมหลวงปู่สุ่น..!
เป็นเหลนศิษย์ที่น่าเตะมาก..ปู่ทวดทั้งองค์ยังลืมได้..!
เพราะว่าตอนกราบอาราธนาบารมีพระ
ก็จะไล่จากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง
หลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็คือมาตามลำดับสายครูบาอาจารย์
แต่ลืมหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ ที่เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ปานไป
ท่านมาสงเคราะห์เตือนว่า งานของท่านอย่าลืมไปด้วย
ความจริงท่านไม่ต้องเตือน
อาตมาก็เต็มใจที่จะไปอยู่แล้ว คราวนี้ด้วยความที่ท่านเมตตามา
ก็เลยขอท่านสงเคราะห์เรื่องของวัตถุมงคลที่
ดร.พระครูโรจน์ท่านทำเอาไว้เป็นคันรถ”
*******************
#หลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ
พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ท่านเป็นพระได้อภิญญา
หลวงปู่สุ่น องค์นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ทรงขึ้น
ทรงมีความเคารพนับถือมาก
ครั้งหนึ่งเมื่อพระองค์เสด็จไปจอดเรืออยู่ที่หน้าวัด
เห็นนกกระยางบินผ่านมาหน้าวัด ก็ยกปืนขึ้นยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก
แต่ผลที่สุดจะหันปืนไปทางไหน อากาศในบริเวณวัดนั้นทั้งหมด ยิงไม่ออก
ท่านมีความสงสัย ขึ้นไปหาท่านเจ้าอาวาส คือ หลวงปู่สุ่น
หลวงปู่สุ่นบอกว่า "อย่าว่าแต่อากาศเลย อะไรก็ยิงไม่ออกในวัดนี้"
ถามว่า "เป็นเพราะอะไร"
ท่านบอกว่า "เป็นเพราะอำนาจพุทธานุภาพ"
รัชกาลที่ ๖ ก็อยากจะทราบว่า
"ถ้ากระผมอยากจะเป็นคนยิงไม่ออกบ้างจะได้ไหม"
ท่านก็บอกว่า "ได้ แต่ว่าต้องรับปากเสียก่อนว่า
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในขอบเขตของบริเวณวัดจะไม่ทำอันตราย
แก่สัตว์ จะไม่ละเมิดสิทธิของสงฆ์"
รัชกาลที่ ๖ ก็รับคำ แล้วท่านก็ขอพระแสงประจำตัว คือมีปืนเล็กๆ
กระบอกเมื่อท่านมาเสกๆ แล้วก็ส่งให้ บอก
"ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้าพระองค์ติดปืนกระบอกนี้อยู่ละก็
ปืนจะยิงไม่ออก อาวุธทุกอย่างทำอันตรายพระองค์ไม่ได้"
พระองค์ก็บอกว่า "อาวุธทุกอย่างนี้อาจไม่ได้ติดตัวในบางขณะ
แต่กระผมอยากจะให้ตัวกระผมเองไม่มีอันตรายจากอาวุธ
ท่านก็บอกว่า "ถ้ายังงั้นก็ก้มพระเศียรมา" รัชกาลที่ ๖ ก็ก้มพระเศียรลงไป
ท่านก็ลงกระหม่อมให้ แล้วก็บอกให้มหาดเล็กลองยิง ให้ยิงเดี๋ยวนั้น ไม่ติด
รัชกาลที่ ๖ มีความเลื่อมใสมาก
นี่เป็นปฏิปทาของหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ
ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อปาน
****************
พระภาวนาวิสุทธิโสภณ วิ.
หลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์ วัดประดู่พระอารามหลวง จ.สมุทรสงคราม
ประธานจุดเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลหลวงปู่สุ่น สุนฺทโร
รุ่นฉลองมณฑป วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
กำหนดพุทธาภิเษก 28 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น.
#คณาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต
1.พระภาวนาวิสุทธิโสภณ วิ.
หลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์ วัดประดู่พระอารามหลวง จ.สมุทรสงคราม
2.พระครูสมบูรณ์จริยธรรม หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
3.พระครูวิลาศกาญจนธรรม หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
4. พระครูสันติกัลยาคุณ หลวงพ่อแก่ วัดใหม่กบเจา
5.พระครูชินธรรมาภรณ์ หลวงพ่อประยูร วัดสีกุก
6.พระครูสังฆรักษ์สมาน หลวงปู่ธูป วัดลาดน้ำขาว
7.พระปลัดสราวุธ พระอาจารย์ปืน วัดลาดชะโด
-------------
✨เรื่องราวของ หลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ
อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
“หลวงพ่อสุ่น” ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ ชาวอ.เสนา บางบาล บางไทร
และจังหวัดใกล้เคียงต่างเคารพรักศรัทธาท่านมาก
น่าเสียดายที่ประวัติของหลวงพ่อสุ่นนั้นไม่มีใครบันทึกเรื่องราวเอาไว้
จึงไม่ทราบว่าท่านเกิดที่ไหน วันเดือนปีอะไร และบวชเรียนเมื่อใด
จากปากคำของคนเฒ่าคนแก่บอกเล่ากันว่า
ท่านเป็นสมภารองค์แรกซึ่งปกครองวัดบางปลาหมออยู่นานพอสมควร
เป็นพระวิปัสสนากรรมฐานผู้ทรงอภิญญา
มีวิชาอาคมไสยเวทย์เปี่ยมล้น
นอกจากนี้ยังเป็นพระหมอรักษาไข้ และเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย
เหตุนี้จึงมีผู้ให้ความเคารพนับถือท่านมาก
นัยว่ามีเจ้านายจากกรุงเทพฯ
เคยมาพักที่วัดให้ท่านรักษาโรคด้วย
จากบันทึกของ “พระราชพรหมญาณ”
หรือ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” วัดท่าซูง
ลูกศิษย์รูปหนึ่งของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
ได้บันทึกไว้ว่า “หลวงพ่อสุ่นเป็นพระอุปัชฌาย์หลวงพ่อปาน
ครั้นหลวงพ่อปานบวชแล้วก็ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อสุ่น
ที่วัดบางปลาหมอ เพื่อศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมต่างๆ
จากพระอาจารย์ ซึ่งหลวงพ่อสุ่นเองก็รักใคร่
ในตัวของหลวงพ่อปาน ถ่ายทอดวิชาอาคม ต่างๆให้”
หลวงพ่อปานนั้น มีความรักอยากจะเรียนทางหมอรักษาคนไข้
แต่หลวงพ่อสุ่นอยากให้ศิษย์รักรับวิชาอาคมต่างๆ เอาไว้ด้วย
ดังนั้นการเรียนการสอนจึงมีทั้งไสยเวทย์
และทางหมอยาควบคู่กันไปด้วย
วิชาอาคมของหลวงพ่อสุ่นนั้นสูงมาก
ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ท่านจะตรวจดูด้วยญาณทิพย์
แล้วรักษาตามโรคนั้น ส่วนใหญ่จะหายกลับไปทุกราย
ยกเว้นผู้ที่ถึงฆาตจริงๆ ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ต่างๆนั้น
ท่านมักจะไม่ทำให้ผู้ใดเห็น เกรงว่าจะกลายเป็นพระผู้อวดคุณวิเศษไป
ปัจจัยที่ญาติโยมให้มาจากการรักษาโรคท่าน
ก็นำมาซ่อมสร้างวัดจนหมดสิ้น
นอกจากช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บให้แก่คนทั่วไปแล้ว
ท่านยังเป็นพระเถระผู้มีความสามารถในทางเทศนาอบรม
สั่งสอนสาธุชนอีกด้วย ทำให้วัดบางปลาหมอสมัยนั้นรุ่งเรือง
มีผู้คนเข้าออกวัดแต่ละวันเป็นจำนวนมาก
มีทั้งไปปฏิบัติธรรมและไปรักษาไข้
หลวงพ่อสุ่นมรณภาพเมื่อปีพ.ศ.อะไรไม่ปรากฏแน่ชัด
แต่ภาพที่ปรากฏคือ ท่านมรณภาพในท่าไสยาสน์
วัตถุมงคลทุกรุ่นได้รับความนิยมสูง
โดยเฉพาะพระเนื้อดินหายากมาก
ชาวบ้านบางปลาหมอต่างหวงแหนอย่างที่สุด
-----------
เรื่อง อภิญญาของหลวงพ่อสุ่น
อาจารย์ของหลวงพ่อปาน *
* หลวงพ่อฤาษีลิง~พระราชพรหมยานฯ.. เล่าให้ฟัง
..." หลวงพ่อสุ่น องค์นี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ มีความเคารพมาก..
~ มีอยู่คราวหนึ่ง เมื่อพระองค์เสด็จไปจอดเรืออยู่หน้าวัด ( วัดบางปลาหมอ ) มองเห็นนกกระยางบินผ่านมาหน้าวัด ก็ยกพระแสงปืนยิง ปรากฏว่า.. ปืนยิงไม่ออก..
~ และผลที่สุด จะหันปากกระบอกปืน ไปทางไหน อากาศในบริเวณวัดนั้นทั้งหมด ยิงไม่ออก..
~ พระองค์มีความสงสัย เลยขึ้นไปหาท่านเจ้าอาวาส
สมัยนั้นคือ หลวงพ่อสุ่น..
~ หลวงพ่อเลยบอกว่า : อย่าว่าแต่อากาศเลย
อะไรในวัดนี้ก็ยิงไม่ออกทั้งนั้น.
~ ท่านถามว่า : เป็นเพราะอะไรครับ..
~ หลวงพ่อสุน ท่านบอกว่า : เป็นเพราะอำนาจพุทธานุภาพ
* พระองค์ได้ฟังอย่างนั้นก็ปลื้มใจและเกิดปีติ และมีความมั่นใจ.
~ ก็เลยถามว่า : ถ้ากระผมอยากจะเป็นคนยิงไม่ออกบ้างจะได้ไหมครับ..
~ ท่านก็บอกว่า : ได้.. แต่ต้องรับปากเสียก่อนว่า..
นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในเขตบริเวณวัดทั้งหมด
จะไม่ทำอันตรายต่อสัตว์ จะไม่ละเมิดของสงฆ์..
* ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ก็รับคำ
แล้วหลวงพ่อสุ่นก็ขอพระแสงปืนประจำตัว
เป็นปืนเล็ก ๆ กระบอกหนึ่ง เอามาเสก.. เสกแล้วก็ส่งให้..
~ ท่านบอกว่า : นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ถ้าพระองค์ติดพระแสงปืนกระบอกนี้อยู่ล่ะก็
ยิงไม่ออก อาวุธทุกอย่างทำอะไรพระองค์ไม่ได้..
~ พระองค์ก็บอกว่า : อาวุธทุกอย่างอาจจะไม่ได้ติดตัวในบางขณะ และผมอยากจะให้ตัวผมเอง ไม่มีอันตรายจากอาวุธ..
~ หลวงพ่อสุน ก็บอกว่า : ถ้าอย่างนั้น ก็ก้มพระเศียรมา..
* ในหลวง ท่านก็ก้มพระเศียรลงไป หลวงพ่อสุ่นก็ลงกระหม่อมให้ แล้วก็บอกให้มหาดเล็กลองยิง ให้ยิงเดี๋ยวนั้น ปรากฏว่า.. ยิงไม่ติด ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ ๖ มีความเลื่อมใสมาก.
* นี่ เป็นปฏิปทาอีกตอนหนึ่งของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ( จ.พระนครศรีอยุธยา ) ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อปาน.
~ ที่นำเอาประวัติของพระคู่สวด และพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อปาน มาเล่าให้ฟัง ก็เพื่อจะได้ทราบว่า..
* คนที่มีบุญญาธิการสูง มีบารมีมากอย่างหลวงพ่อปาน ท่านจึงพบแต่ครูบาอาจารย์ที่ดีมีความเป็นพระจริง ๆ มีความเคร่งครัด มีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิตั้งมั่น มีวิปัสสนาญาณแจ่มใส มีความรู้ความสามารถครบถ้วนทุกอย่าง และมีการสำเร็จมรรคผลมาก่อน..
~ จึงจัดว่า เป็นการเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่เกิดมาบำเพ็ญบารมีเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า..."
( จากหนังสือ *ธัมมวิโมกข์*
พ.ศ. ๒๕๒๕ ฉบับที่ ๒๓
หน้าที่ ๑๑๖-๑๑๙ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี )