รหัสสินค้า | SKU-01456 |
หมวดหมู่ | พระเครื่อง วัตถุมงคล รายการ อื่นๆ |
ราคา | 2,500.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
ลงสินค้า | 22 เม.ย. 2562 |
อัพเดทล่าสุด | 23 ก.พ. 2566 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
ซัมภาลา พ่อพญาสี่เขี้ยว
สมัยโบราณมีความเชื่อกันว่า ใครอยากเป็นเศรษฐีต้องบูชา ซัมภาลา
นี่คือสิ่งที่เรารวบรวมมาก่อนสร้างวัตถุมงคลชิ้นนี้ ซัมภาลา พ่อพญาสี่เขี้ยว
วัตถุมงคลชื้นนี้ รวมสิ่งที่เป็นมงคลโชคลาภ ไว้เยอะมากมาย
1. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรงหมวกของไฉ่ซิงเอี๊ย
เป็นตัวแทนของผู้มีปัญหาตรัสรู้ ดับทุกข์ หยุดการเวียนว่ายตายเกิด
ซึ่งเป็นมงคลสูงสุดของชาวพุทธ
2. ไฉ่ซิงเอี๊ย(ท้าวเวสสุรรณ) เทพเจ้าแห่งโชคลาภและทรัพย์สมบัติ
3. มังกร คือ ตัวแทนของความยิ่งใหญ่ อำนาจวาสนาความรุ่งเรือง
4. ปี่เซี๊ย ลูกตัวที่9ของมังกร ซึ่งมีความเชื่อว่ากินเก่งไม่มีตูดให้ขับถ่าย
เป็นความเชื่อสำคัญของคนจีนคือ หาเงินเก่งโดยไม่รั่วไหล
5. ราหูดำ(ไท้ส่วยเอี้ย) คือ เจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา
ซึ่งกลับโชคร้ายให้กลายเป็นดี
6. ช้างหกงา ด้านหลัง คือ สุดยอดฮวงจุ้ยที่เชื่อกันว่ามีตั้งไว้ที่ไหน
จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เช่นบนเขาง่อไบ๊ในเสฉวน
7. หงส์ เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และประจำทิศใต้ของคนจีน
เป็นสัตว์ที่นำเรื่องมงคล ฤกษ์งามยามดีมาสู่แผ่นดิน
ยามที่หงส์ปรากฏตัวแผ่นดินจะสงบสุขมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
8. คำมงคลของจีน ที่แปลว่า เงินทองทรัพย์สมบัติเข้ามาหามากมาย
ล้อมรอบด้วยปีนักษัตร 8 มงคล
--------
อธิษฐานจิตปลุกเสกมวลสารพร้อมพญาครุฑปรเมศวร
🚩ณ วัดหายโศก จ.อุดรธานี
🚩ในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๒
🚩หลังจัดสร้างวัตถุมงคลเสร็จสิ้นจะนำไปปลุกเสก ณ วัดดังวิหารดังในเนปาล
ดินแดนพุทธภูมิดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประสูติพระพุทธเจ้า
🚩กำหนดการรับวัตถุมงคล ประมาณเดือนมิถุนายน ๒๕๖๒
หรืออาจกรกฎาคมถ้าเอาเข้าพิธีที่วัดหายโศกด้วย
พิธีปลุกเสกในเนปาล ไม่รวมอีกหลายที่ในไทย
🚩วัดลามะที่ใหญ่ที่สุดของเนปาล ที่มี jambhala (ท้าวเวสสุวัณ) ทำพิธีใหญ่
โดยพระลามะสายที่เคร่งที่สุดของเนปาล
และอีกหลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์1000 กว่าปี ขึ้นอีกหลายแห่ง ....
🚩ทำพิธีใหญ่ขอพลังจากวิหารพันปีของพระนารายบรรทมสิญจน์กลางน้ำ
🚩 ทำพิธีที่วิหาร1500 ปีที่จางกรูนารายันของพระนารายณ์
🚩ทำพิธีบวงสรวงที่วิหารพันกว่าปีของพระคเณศน้ำอย่างจาวบินายัค
ทางน้ำตำนานมังกรของกาฐมัณฑุ
🚩วิหารกลางน้ำพระแม่อุมาเทวีกับปารวาตรีเป็นพันปีที่โพคารา
🚩ไปขอพรทำพิธี โดยนักบวชฮินดู วิหารพ่อศิวะ
ใหญ่ที่สุดในเนปาล นักธุรกิจที่เนปาลนับถือกันมาก
🚩สู่วิหารแห่งจิตที่สมปรารถนาอันศักดิ์สิทธิ์อย่าง Manakamana ...
ที่ต้องขนขึ้นยอดเขาสูงโดยเคเบิล ...
🚩วิหารกลางเมืองหลวงเนปาล ที่เชื่อว่าเชิญ ภาคนึงของ Mahakala (มหากาฬ)ลงมาประทับ
จากที่ท่านกำลังเดินทางจากทิเบตไปกราบนมัสการพระพุทธเจ้าที่พุทธคยาในอดีตพุทธกาล
และที่ขาดไม่ได้ จาวบินายัค วิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระคเณศน้ำ
ท้าวเวส ต้นตำนานจริงๆ เริ่มครั้งแรกที่ทิเบต เหนือจากเนปาลขึ้นไปครับ เนปาลเป็นประเทศที่ผสมผสานอินเดียชมพูทวีปของศาสนาพุทธ กับ ทิเบตได้อย่างกลมกลืน ดังนั้น jambhala หรือท้าวเวส ถึงมีเสกที่วัดลามะที่ใหญ่🚩ที่สุดของเนปาล และมีตำนานมากมาย เกี่ยวกับท้าวเวสมานานกว่าพันปีแล้วในประเทศเนปาล....
---------
ในฝ่ายพุทธมหายาน มีการกล่าวถึงจตุโลกบาลเช่นกัน
และตรงกันว่ามหาราชผู้เป็นใหญ่ในทิศเหนือคือท้าวเวสสุวรรณ
เป็นเทพผู้รักษาพระพุทธศาสนา ดังจะเห็นได้จากทางเข้าวัดจีน
จะมีจตุโลกบาล 4 องค์ยืนเฝ้าอยู่
ศาสนาพุทธมหายานครอบคลุมถึงทิเบต เนปาล และประเทศจีนปัจจุบัน
รวมทั้งอดีตพันกว่าปี ของคาบสมุทรทะเลใต้ คืออินโดนีเซีย, ไทย, เขมร
ที่ศาสนาพุทธมหายานเคยรุ่งเรืองถึงขีดสุด ที่กล่าวโดยสรุปย่อๆให้เห็นภาพชัดเจนว่า
ท่านคือใคร แล้วท้าวชุมภล หรือเศรษฐีชัมภล มาจากไหน
ในคาถาบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภของพุทธตันตระฝ่ายมหายาน
มีดังนี้ “ โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน สวาหะ ”
“ ชัมภาลา ” ก็คือชัมภล นั่นเอง และในภาษาอังกฤษที่เรียกรูปเคารพ ของท้าวกุเวร
หรือท้าวเวสสุวรรณ ก็เขียนทับศัพท์ว่า “JAMBHALA” ตามรูปสมมุติที่สร้างขึ้น
เท่าที่ปรากฏตามที่ผู้เขียนได้ค้นคว้าจากตำราทั้งภาษาไทย, จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส
ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้รู้ และเมืองจีนยุคหลังๆ เรียกท่านว่า “ ไฉ่ซิ้งเอี้ย ” ตามสำเนียงและภาษาที่เป็นไปของแต่ละพื้นที่ พร้อมกับมีนิทานเรื่องขุนนางจีนมาประกอบ แต่ยังปรากฏรากศัพท์ของเสียง
“ ฉ ” หรือ “ ช ” ที่ภาษาจีนทางใต้ออกเสียง “ ใช้ ” หมายถึงความร่ำรวย ซึ่งใกล้เคียงของเดิมคือ “ ชัมภล ” “ ชัมภาลา ”
ในการสวดมนต์ขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ นั้น ทางฝ่ายตันตระมหายาน ก็จะใช้คาถาตามที่กล่าวไป เพื่อขอพรให้ท่านประทานโชคลาภและความร่ำรวย ทั้งยังมีอานุภาพในการคุ้มครองปกป้องทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วให้ปลอดภัย รวมถึงจากบรรดาภูติผีปีศาจ อำนาจชั่วร้ายทั้งปวง ก็ไม่สามารถทำอันตรายได้ เพราะท่านคือมหาราชผู้เป็นจตุโลกบาล เจ้าแห่งยักษ์
เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ( ไฉ่ซิ้งเอี้ย ) สามารถจัดแบ่งปางต่างๆตามหลักมหายานได้ดังนี้
 1 ปางมหาเศรษฐี ชัมภล ซึ่งเป็นปางที่ใหญ่สุดและมีความเก่าแก่ที่สุดกว่า 2,000 ปี
2 ปางบู๊ ทรงเครื่องนักรบโบราณ มีเสือประทับอยู่ด้วย คติมาจากความที่เป็นยักษ์นั่นเอง ภายหลังจึงแปลงให้เป็นปางบู๊
3 ปางบุ๋น เป็นรูปขุนนางจีน ดังที่เห็นกันทั่วไป ซึ่งปางนี้กำเนิดภายหลังไม่กี่ร้อยปี คล้ายคลึงกับเทพเจ้าองค์อื่นๆของจีน เช่น ตี่จูเอี้ย, แป๊ะกง ฯลฯ อาจจะมีคฑายู่อี่ และถือก้อนเงินจีนโบราณ

จะเห็นได้ว่า ทั้งสามปางหลัก ปางมหาเศรษฐี ชัมภล มีความเก่าแก่ยาวนาน และมีประวัติความเป็นมาที่สากล ปรากฏในหลายประเทศแถบทวีปเอเซีย ส่วนอีก 2 ปางนั้น มากำเนิดขึ้นภายหลังในประเทศจีน ซึ่งจะมีกึ่งตำนานกึ่งนิทาน ตามตำนานมหาเทพของจีน ( ฮงสิงปั้ง ) ที่เป็นบุคคลธรรมดา ต่อมาภายหลังเมื่อเสียชีวิตจึงได้รับการยกเป็นเทพ ตัวอย่างเช่น เทพเจ้ากวนอู ที่รู้จักกันดี เทพเจ้าหลูปัน, อันเป็นผู้ชำนาญในงานช่างคิดประดิษฐ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ พอเสียชีวิตไป ก็ได้รับยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งงานช่าง แม้แต่มาตรวัดต่างๆ ที่บรรดาซินแสใช้ ก็มาจากมาตรวัดของหลูปันทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องพิเศษ
เทพเจ้าแห่งโชคลาภนี้ ถือว่าเป็นเทพเจ้าที่มาจากบันทึกตามพระไตรปิฎก คือท้าวจตุโลกบาล ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติทั้งมวลในโลกมนุษย์ ทั้งยังเป็นเทพธรรมบาลผู้รักษาดูแลพระพุทธศาสนาอีกด้วย
นอกจากนั้น เทพเจ้าแห่งโชคลาภปางมหาเศรษฐี ชัมภลนี้ ยังมีบริวารอีกเป็นจำนวนมากที่ใหญ่รองลงมา ก็มีถึง 4 องค์ ด้วยกัน ตามศาสตร์จีนเรียกว่า “ โหงวไฉ่ซิ้ง ” หรือ ไฉ่ซิ้ง 5 องค์ ใน 4 องค์นี้ ก็มีบริวารอีกเช่นกัน แต่ที่สุดแล้วผู้เป็นใหญ่สุดคือ มหาเศรษฐีชัมภล ที่มีการสร้างรูปเคารพของท่านในที่ต่างๆ มาตั้งแต่โบราณเป็นพันปี
ตามพุทธสูตรกล่าวไว้ว่า “ ขอเพียงแต่วาดภาพหรือแกะสลักรูปของมหาเศรษฐีชัมภล จะคิดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น สมดังใจปรารถนา
เทวรูปมั่งคั่ง องค์นี้ก็คือ เทพธนาของพระพุทธศาสนานิกายตันตระ ( ในทิเบตคือนิกายลามะ ) มีนามว่า “ รัตนะโกศ ” มีหน้าที่ปกครองดูแลโภคทรัพย์ในแผ่นดินชื่อเต็มคือ “ รัตนโกศมหาพญายักษ์ ” ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมาและจะรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วอย่างมั่งคง ”
สำหรับในประเทศไทย มักเรียกท่านว่า ท้าวกุเวร ท้าวชุมพล บางแห่งจะเรียกท่านว่า “ เจ้าพ่อขุมทรัพย์ ” เศรษฐีมหาเศรษฐีหลายคนในประเทศไทยและต่างประเทศ ก็มีการบูชาท่านมานานแล้ว แม้แต่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งในไทย ก็มีรูปหล่อของมหาเศรษฐีชัมภลนี้บูชา
การบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภปางนี้นั้น นอกจากให้คุณทางด้านโชคลาภทรัพย์สมบัติแล้วยังสามารถคุ้มครองป้องกันสิ่ง อัปมงคล ได้ทุกชนิด สามารถปัดเป่าพลังอำนาจที่ไม่ดีออกไป ซึ่งคนโบราณค้นพบและหยั่งรู้ในความหมาย จึงได้สร้างรูปเหมือนท่านไว้ ทั่วทวีปเอเชียนานกว่าสองพันปี
ทำไม ไม่แค่ ซัมภาลา ไฉ่ซิ่งเอี๊ย ท้าวเวสสุวรรณ ....ชื่อแค่นี้ก็น่าเพียงพอสำหรับวัตถุมงคลชิ้นนึงแล้ว เพราะก็มีวัดให้ออกอยู่แล้ว....ทำไมต้องต่อด้วยพ่อพญาสี่เขี้ยวด้วย
พ่อพญาสี่เขี้ยวคือต้นตำนานผีเสื้อเมืองของชาวไทยวนสีคิ้วครับ ...ที่มีชาวสีคิ้วศรัทธาอยู่มากมายทั้งคนไทยวน/คนจีนและคนไทย เพราะมีเหตุการณ์หลายอย่างที่เคยเล่าไปแล้ว แล้วยังแสดงให้เห็นตั้งแต่วันไปขอสร้างด้วยการเสี่ยงเซียมซีได้เบอร์16 วันรุ่งขึ้นสมาชิกก็ถูกลอตเตอรี่กันหลายคน และมีอีกหลายเหตุการณ์ตามมา แต่ที่คนสงสัยทำไมต้องใช้ไฉ่ซิงเอี๊ยแทนองค์พ่อพญาสี่เขี้ยวด้วย....
ไม่อยากให้มองว่าใช้ไฉ่ซิงเอี๊ยหรือท้าวเวสสุวัณแทนองค์พ่อพญาสี่เขี้ยว แต่เราสร้างวัตถุอันเป็นมงคลโดยขอบารมีพ่อพญาสี่เขี้ยวปกปักดูแลดีกว่าครับ ...และราชายักษ์ที่เป็นมงคลที่สุดก็น่าจะคือ ไฉ่ซิงเอี๊ยหรือท้าวเวสสุวัณ ทำไมต้องเป็นยักษ์ เพราะตามความเชื่อที่เล่าขานกันมา พ่อพญามีเชื้อสายทางตระกูลพ่อเป็นยักษ์ และทางตระกูลแม่มีสายเป็นนาค อยู่ทางเชียงแสน เมื่อเป็นพันปีก่อน และตอนก่อนท่านสวรรคตก็เพราะโดนฆ่าเพราะอยากทานเนื้อจนทนไม่ไหว จึงได้ทานเนื้อผู้ชายผู้หญิงไปคู่นึง จนแพ้วิชาตนเองจนมีเขี้ยวงอกออกมาสี่เขี้ยว จึงเรียกพ่อพญาสี่เขี้ยว....ซึ่งเป็นตำนานของชาวไทยวนบทหนึ่งของสีคิ้ว แล้วทำไมเราต้องทำแบบจีนด้วย เพราะว่าที่ผมไปขอครั้งแรกและเสี่ยงเซียมซีคือที่ศาลจีน ซึ่งสร้างทับศาลเก่าดั้งเดิมพ่อพญาสี่เขี้ยว ตรงต้นมะขามในศาลจีน ..และตามประวัติมีคนเดือดร้อนไฟไหม้บ้านหมดตัว มาไหว้ขอพ่อพญาที่ศาลจีนแล้วถูกรางวัลที่1 อีกคนบูชาไม้ไผ่ที่ศาลไปในวันตรุษจีน แล้วถูกรางวัลที่1เช่นกัน...ผมเลยอยากใส่ศิลปะความเป็นจีนตามศาลจีนในแบบหนึ่ง และคิดถึงต้นกำเนิดไทยวนของพ่อพญาสี่เขี้ยวที่ย้ายมาจากยูนนาน และเมื่อยิ่งเราสืบประวัติย้อนกลับไปทางยูนนาน ก็มีการนับถือท้าวเวสสุวัณหรือไฉ่ซิงเอี๊ย มากว่าพันปี และเป็นต้นตำนานพญานาคหนองแสที่เกี่ยวกับนาคแม่น้ำโขงและน่าน ซึ่งก็คือทะเลสาปเอ่อไห่ หรืออาณาจักรน่านเจ้าในอดีต จนทำให้ผมคิดว่าตำนานที่เล่าขานมานานเกี่ยวกับผีเสื้อเมืองอย่างพ่อพญาสี่เขี้ยวอาจเริ่มต้นมานานเป็นพันปีแบบร่างทรงบอกก็ได้ เพราะก่อนการย้ายถิ่นฐานมาเชียงแสนจนเกิดตำนานนาคสร้างเมืองอย่างโยนกนคร ทางยูนนานก็มีความเชื่อเรื่องแบบเดียวกันนี้มาก่อนอาณาจักรเชียงแสนเมื่อพันกว่าปีก่อนด้วยซ้ำ....
ในซัมภาลา พ่อพญาสี่เขี้ยว พระมหาเศรษฐี ....
หน้าที่ต่อไปคือทำพิธีให้สมกับสิ่งมงคลที่เราเชิญลงมายังวัตถุมงคลชิ้นนี้
ตามพุทธสูตรกล่าวไว้ว่า “ ขอเพียงแต่วาดภาพหรือแกะสลักรูปของมหาเศรษฐีชัมภาลา จะคิดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น สมดังใจปรารถนา
เทวรูปมั่งคั่ง องค์นี้ก็คือ เทพธนาของพระพุทธศาสนานิกายตันตระ ( ในทิเบตคือนิกายลามะ ) มีนามว่า “ รัตนะโกศ ” มีหน้าที่ปกครองดูแลโภคทรัพย์ในแผ่นดินชื่อเต็มคือ “ รัตนโกศมหาพญายักษ์ ” ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมาและจะรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วอย่างมั่งคง ”
สำหรับในประเทศไทย มักเรียกท่านว่า ท้าวกุเวร ท้าวชุมพล บางแห่งจะเรียกท่านว่า “ เจ้าพ่อขุมทรัพย์ ” เศรษฐีมหาเศรษฐีหลายคนในประเทศไทยและต่างประเทศ ก็มีการบูชาท่านมานานแล้ว แม้แต่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งในไทย ก็มีรูปหล่อของมหาเศรษฐีชัมภาลานี้บูชา
การบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภปางนี้นั้น นอกจากให้คุณทางด้านโชคลาภทรัพย์สมบัติแล้วยังสามารถคุ้มครองป้องกันสิ่ง อัปมงคล ได้ทุกชนิด สามารถปัดเป่าพลังอำนาจที่ไม่ดีออกไป ซึ่งคนโบราณค้นพบและหยั่งรู้ในความหมาย จึงได้สร้างรูปเหมือนท่านไว้ ทั่วทวีปเอเชียนานกว่าสองพันปี
-------
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำคัญที่อยู่ใน ซัมภาลา พ่อพญาสี่เขี้ยว เศรษฐีหมื่นล้าน...และเหตุผลที่ผู้บูชาควรรู้
****ทำไม ไม่ใช้แค่ชื่อว่า ซัมภาลา /ไฉ่ซิ่งเอี๊ย /ท้าวเวสสุวรรณ ....ชื่อแค่นี้ก็น่าเพียงพอสำหรับวัตถุมงคลชิ้นนึงแล้ว....ทำไมต้องต่อด้วยพ่อพญาสี่เขี้ยวด้วย
พ่อพญาสี่เขี้ยวคือต้นตำนานผีเสื้อเมืองของชาวไท-ยวนสีคิ้วครับ ...ซึ่งมีชาวสีคิ้วศรัทธาอยู่มากมายทั้งคนไท-ยวน/คนจีนและคนไทย มีเหตุการณ์หลายอย่างที่เคยได้เล่าในกลุ่มยอดขุนพลไปแล้ว เช่นแสดงให้เห็นตั้งแต่วันแรกที่ไปขอสร้างด้วยการเสี่ยงเซียมซีได้เบอร์16 ....วันรุ่งขึ้นสมาชิกก็ถูกลอตเตอรี่/หวย16 กันหลายคน และมีอีกหลายเหตุการณ์ตามมา อีกหลายอย่าง ซึ่งแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อพญาสี่เขี้ยว....
แต่ที่คนสงสัย..
****ทำไมต้องใช้ซัมภาลา/ไฉ่ซิงเอี๊ยหรือท้าวเวสสุวัณแทนองค์พ่อพญาสี่เขี้ยวด้วย....
ไม่อยากให้มองว่าใช้ไฉ่ซิงเอี๊ยหรือท้าวเวสสุวัณแทนองค์พ่อพญาสี่เขี้ยว แต่อยากให้มองในมุม ที่เราสร้างวัตถุอันเป็นมงคล โดยขอพึ่งพาบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อพญาสี่เขี้ยว ให้ช่วยปกปักดูแลดีกว่าครับ .......และราชายักษ์ที่เป็นมงคลที่สุดก็น่าจะคือ ไฉ่ซิงเอี๊ยหรือท้าวเวสสุวัณ
***ทำไมต้องเป็นยักษ์
เพราะตามตำนานความเชื่อที่เล่าขานกันมา พ่อพญาสี่เขี้ยวมีเชื้อสายทางตระกูลพ่อเป็นยักษ์ และทางตระกูลแม่มีสายเป็นนาค อยู่ทางเชียงแสน เมื่อเป็นพันปีก่อน และตอนก่อนท่านสวรรคต ก็เพราะโดนฆ่าเพราะอยากทานเนื้อจนทนไม่ไหว จึงได้ทานเนื้อผู้ชายผู้หญิงไปคู่นึง จนแพ้วิชาตนเองจนมีเขี้ยวงอกออกมาสี่เขี้ยว จึงเรียกพ่อพญาสี่เขี้ยว....ซึ่งเป็นตำนานของชาวไท-ยวนบทหนึ่งของสีคิ้ว
****แล้วทำไมเราต้องทำแบบจีนด้วย
เพราะว่าที่ผมไปขอครั้งแรกและเสี่ยงเซียมซีคือที่ศาลจีน ซึ่งสร้างทับศาลเก่าดั้งเดิมพ่อพญาสี่เขี้ยว ตรงต้นมะขามในศาลจีน ..และตามประวัติมีคนเดือดร้อนไฟไหม้บ้านหมดตัว มาไหว้ขอพ่อพญาที่ศาลจีนแล้วถูกรางวัลที่1 อีกคนบูชาไม้ไผ่ที่ศาลไปในวันตรุษจีน แล้วถูกรางวัลที่1เช่นกัน...ผมเลยอยากใส่ศิลปะความเป็นจีนตามศาลจีนในแบบหนึ่ง และคิดถึงต้นกำเนิดไทยวนของพ่อพญาสี่เขี้ยวที่ย้ายมาจากยูนนาน และเมื่อยิ่งเราสืบประวัติย้อนกลับไปทางยูนนาน ก็มีการนับถือท้าวเวสสุวัณหรือไฉ่ซิงเอี๊ย มากว่าพันปี และเป็นต้นตำนานพญานาคหนองแสที่เกี่ยวกับนาคแม่น้ำโขงและน่าน ซึ่งก็คือทะเลสาปเอ่อไห่ หรืออาณาจักรน่านเจ้าในอดีต จนทำให้ผมคิดว่าตำนานที่เล่าขานมานานเกี่ยวกับผีเสื้อเมืองอย่างพ่อพญาสี่เขี้ยวอาจเริ่มต้นมานานเป็นพันปีแบบร่างทรงบอกก็ได้ เพราะก่อนการย้ายถิ่นฐานมาเชียงแสนจนเกิดตำนานนาคสร้างเมืองอย่างโยนกนคร ทางยูนนานก็มีความเชื่อเรื่องแบบเดียวกันนี้มาก่อนอาณาจักรเชียงแสนเมื่อพันกว่าปีก่อนด้วยซ้ำ....นี่คือสิ่งที่เรารวบรวมข้อมูลมาก่อนสร้างวัตถุมงคลชิ้นนี้ ซัมภาลา พ่อพญาสี่เขี้ยว
🙏🏻วัตถุมงคลชื้นนี้ รวมสิ่งที่เป็นมงคลโชคลาภไว้เยอะมากมาย
1 พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรงหมวกของไฉ่ซิงเอี๊ย เป็นตัวแทนของผู้มีปัญหาตรัสรู้ ดับทุกข์ หยุดการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งเป็นมงคลสูงสุดของชาวพุทธ
2 ไฉ่ซิงเอี๊ย(ท้าวเวสสุรรณ) เทพเจ้าแห่งโชคลาภและทรัพย์สมบัติ
3 มังกรคือตัวแทนของความยิ่งใหญ่ อำนาจวาสนาความรุ่งเรือง
4 ปี่เซี๊ย ลูกตัวที่9ของมังกร ซึ่งมีความเชื่อว่ากินเก่งไม่มีตูดให้ขับถ่าย เป็นความเชื่อสำคัญของคนจีนคือ หาเงินเก่งโดยไม่รั่วไหล
5 ราหูดำ(ไท้ส่วยเอี้ย) คือเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา ซึ่งกลับโชคร้ายให้กลายเป็นดี
6ช้างหกงาด้านหลังคือสุดยอดฮวงจุ้ยที่เชื่อกันว่ามีตั้งไว้ที่ไหน จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เช่นบนเขาง่อไบ๊ในเสฉวน
7หงส์เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และประจำทิศใต้ของคนจีน เป็นสัตว์ที่นำเรื่องมงคล ฤกษ์งามยามดีมาสู่แผ่นดิน ยามที่หงส์ปรากฏตัวแผ่นดินจะสงบสุขมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
8 คำมงคลของจีนที่แปลว่าเงินทองทรัพย์สมบัติเข้ามาหามากมาย ล้อมรอบด้วยปีนักษัตร
8มงคล ในซัมภาลา พ่อพญาสี่เขี้ยว พระมหาเศรษฐี ....หน้าที่ต่อไปคือทำพิธีให้สมกับสิ่งมงคลที่เราเชิญลงมายังวัตถุมงคลชิ้นนี้ ซึ่งมีพิธี ทั้งไทยและเนปาลมากมาย หลายที่
🙏🏻ตามพุทธสูตรกล่าวไว้ว่า “ ขอเพียงแต่วาดภาพหรือแกะสลักรูปของมหาเศรษฐีชัมภาลา จะคิดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น สมดังใจปรารถนา
เทวรูปมั่งคั่ง องค์นี้ก็คือ เทพธนาของพระพุทธศาสนานิกายตันตระ ( ในทิเบตคือนิกายลามะ ) มีนามว่า “ รัตนะโกศ ” มีหน้าที่ปกครองดูแลโภคทรัพย์ในแผ่นดินชื่อเต็มคือ “ รัตนโกศมหาพญายักษ์ ” ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมาและจะรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วอย่างมั่งคง ”
สำหรับในประเทศไทย มักเรียกท่านว่า ท้าวกุเวร ท้าวชุมพล บางแห่งจะเรียกท่านว่า “ เจ้าพ่อขุมทรัพย์ ” เศรษฐีมหาเศรษฐีหลายคนในประเทศไทยและต่างประเทศ ก็มีการบูชาท่านมานานแล้ว แม้แต่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งในไทย ก็มีรูปหล่อของมหาเศรษฐีชัมภาลานี้บูชา
การบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภปางนี้นั้น นอกจากให้คุณทางด้านโชคลาภทรัพย์สมบัติแล้วยังสามารถคุ้มครองป้องกันสิ่ง อัปมงคล ได้ทุกชนิด สามารถปัดเป่าพลังอำนาจที่ไม่ดีออกไป ซึ่งคนโบราณค้นพบและหยั่งรู้ในความหมาย จึงได้สร้างรูปเหมือนท่านไว้ ทั่วทวีปเอเชียนานกว่าสองพันปี
หน้าที่เข้าชม | 2,875,833 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,950,015 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 มิ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |